กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ผนึกกำลัง บริษัท ซีพี ออลล์ เปิดโครงการ DIPROM Move to Modern Trade 2 ร่วมพัฒนาภาคการเกษตรไทยให้เป็นเกษตรอุตสาหกรรมทั้งในรูปแบบสินค้าและบริการ เพื่อสร้างมูลค่าได้มากขึ้นผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยคาดว่าจะส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด 20 ธุรกิจ
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงมีนโยบายสำคัญที่จะขยายโอกาสด้านการตลาดให้กับธุรกิจเกษตรไม่ว่าจะเป็นการได้รับองค์ความรู้สมัยใหม่ การมีช่องทางจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขึ้น ล่าสุดนี้ ดีพร้อม (DIPROM) จึงจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมขยายสู่ช่องทางการค้าสมัยใหม่ หรือ DIPROM Move to Modern Trade 2 อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งมุ่งสู่ความสำเร็จในมิติที่ 1 คือการปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมศักยภาพ ธุรกิจการผลิตรูปแบบใหม่ โดยให้ความสำคัญมากกับการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นรากฐานความแข็งแกร่งของประเทศและมีศักยภาพที่จะไปต่อได้ในอนาคต อาทิ เกษตรอุตสาหกรรมจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย ส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมสู่เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ และการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจในอนาคต
สำหรับ “DIPROM Move to Modern Trade 2 จัดขึ้นเพื่อสร้างโอกาสที่จะขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรให้เข้าสู่ตลาด Modern Trade ได้มากขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากเครือข่าย บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะทำให้เกิดการยกระดับห่วงโซ่อุตสาหกรรม มุ่งเน้นในการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และ “ดีพร้อม” จะคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีความพร้อม มีสินค้าที่มีความน่าสนใจตรงความต้องการของตลาด และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกผลิตภัณฑ์/สินค้าที่จะนำไปวางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น โดยผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้จะได้รับองค์ความรู้ความต้องการ (requirement) ผลิตภัณฑ์/สินค้าที่ตรงกับความต้องการของตลาดเกิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาจากการเข้าร่วมกิจกรรมของดีพร้อม ได้มีโอกาสในการเข้าสู่ตลาด Modern Trade และถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ดีพร้อมได้เพิ่มโอกาสทางการตลาด สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้วางจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งออนไลน์ ได้แก่ ออลล์ ออนไลน์ (All Online)เซเว่น เดลิเวอรี่ (7 Delivery) และออฟไลน์ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีอยู่กว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด 20 ธุรกิจ
ด้านนายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า DIPROM Move to Modern Trade 2 เป็นความร่วมมืออย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ของศูนย์ 7 สนับสนุน SME (7 SME Support Center) ภายใต้การดำเนินงานของซีพี ออลล์ ในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยเพราะผู้ประกอบการคือ ฐานรากเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและยังเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงได้เสริมทัพกลยุทธ์สนับสนุนผู้ประกอบการผ่าน “SME โตไกลไปด้วยกัน” เพื่อให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดด บนฐานรากที่มั่นคงและแข็งแรงสอดคล้องกับความตั้งใจของบริษัท ภายใต้กลยุทธ์ 3 ให้ คือ 1.ให้ช่องทางขาย เพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการ SMEs นำเสนอสินค้า
เพื่อจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และผ่านช่องทางออนไลน์ 2. ให้ความรู้ ในการพัฒนาสินค้า พร้อมจัดอบรมสัมมนาแก่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง และ 3.ให้การเชื่อมโยงเครือข่ายแก่ SMEs ทั้งภายในบริษัทและองค์กรความร่วมมือจากภายนอก
“ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการไทยในปัจจุบันมีความรู้ ความสามารถในการขยายตลาดสู่ Modern Trade เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งที่ยังต้องการการสนับสนุนอย่างจริงจัง ศูนย์ 7 สนับสนุน SME ในฐานะพันธมิตรสำคัญของผู้ประกอบการ โดยมีบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านที่พร้อมให้ความรู้
แก่ผู้ประกอบการ จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกิจกรรมดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกอบการเติบโตและแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิในอนาคต” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ “DIPROM Move to Modern Trade 2” ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมภายใต้ความร่วมมือสำคัญระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีให้เติบโตและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ โดยทาง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดทีมอาจารย์จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาให้ความรู้ในหลักสูตรครั้งนี้ สำหรับการอบรมหลักสูตรพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม – 5 พฤษภาคม 2566 ผ่านช่องทาง Online นอกจากองค์ความรู้ที่จะได้รับแล้ว ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติม อาทิ การได้รับคำปรึกษาแบบเฉพาะกับธุรกิจของตนในเรื่องการสร้างแบรนด์และพัฒนาแพ็คเกจจิ้ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรมแบบเฉพาะธุรกิจ ช่วยส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและผู้ประกอบการธุรกิจอื่น ๆ พัฒนาศักยภาพ พร้อมกับเปิดประตูไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6877-78 ต่อ 1806-1807 หรือ ติดตามข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่าง ๆได้ที่ www.diprom.go.th และ www.facebook.com/dipromindustry