นักวิชาการซีพีเอฟ ชู “โปรไบโอติก” นวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดสาร

  •  
  •  
  •  
  •  
นักวิชาการค่าย ซีพีเอฟ นำนวัตกรรมการเลี้ยงกุ้งด้วยจุลินทรีย์ “โปรไบโอติก” ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กุ้งแข็งแรงปลอดโรค ปลอดภัย ปลอดการใช้ยาปฏิชีวนะ ไร้สารตกค้าง เป็นแนวทางการเลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การผลิตอาหารปลอดภัยที่มีคุณภาพส่งถึงผู้บริโภค
     นายเชี่ยวชาญ ผลพนิชรัศมี รองกรรมการผู้จัดการ ด้านวิจัยการเลี้ยงกุ้งและเทคโนโลยีชีวภาพ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ  ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคตระหนักถึงความปลอดภัยด้านอาหารเป็นสำคัญ ศูนย์วิจัยการเลี้ยงกุ้ง จึงคิดค้นพัฒนานวัตกรรมการใช้ โปรไบโอติก หรือจุลินทรีย์มีชีวิตชนิดที่มีประโยชน์มาประยุกต์ในการผลิตวัตถุดิบอาหารให้ปลอดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อส่งต่ออาหารปลอดภัย ปลอดสารถึงผู้บริโภค
                                                          เชี่ยวชาญ ผลพนิชรัศมี
    สำหรับ “โปรไบโอติก” ที่ทางศูนย์วิจัยฯ ค้นคว้าพัฒนาคัดเลือกนำมาใช้ในการเพาะเลี้ยงกุ้ง เน้นโปรไบโอติกหลักใน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก เป็นโปรไบโอติกที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงจุลินทรีย์ภายในทางเดินอาหารของสัตว์โดยตรง เน้นจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยอาหาร สร้างเอนไซม์ที่หลากหลาย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรคในทางเดินอาหาร รวมถึงเน้นจุลินทรีย์ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ ทำให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง สามารถต่อต้านเชื้อก่อโรคได้ดี และกลุ่มที่ 2 เน้นคัดเลือกโปรไบโอติกที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำและพื้นบ่อเลี้ยงให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ
        จุลินทรีย์ทั้งหมด จะทำการแยกเชื้อด้วยเทคนิคทางจุลชีววิทยาในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ได้จุลินทรีย์ที่มีความบริสุทธิ์ เป็นจุลินทรีย์โปรไบโอติกธรรมชาติ ไม่ได้ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม จากนั้นจึงนำมาทดสอบประสิทธิภาพต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงคุณสมบัติเด่นของจุลินทรีย์แต่ละชนิด โดยคุณสมบัติของจุลินทรีย์โปรไบโอติกด้านต่างๆ ที่ได้ ประกอบด้วย
     1.สำหรับตัวกุ้ง ได้แก่ ด้านการยับยั้งเชื้อก่อโรค ด้านการผลิตเอนไซม์น้ำย่อยที่ดี และ 2.สำหรับการบำบัดคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ ด้านการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำทั้งคาร์บอนและไนโตรเจน ทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้น โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของสัตว์น้ำ รวมถึงด้านการทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และช่วยปรับปรุงพื้นบ่อ ลดของเสียในเลนและตะกอน
       “การเลี้ยงกุ้งนอกจากจะต้องมีลูกพันธุ์กุ้งที่แข็งแรง ปลอดโรค และการจัดการคุณภาพน้ำและของเสียในบ่อเลี้ยงที่ดีแล้ว ยังต้องสร้างสมดุลของแบคทีเรียชนิดดีในบ่อเลี้ยงและในตัวกุ้ง ทำให้ “โปรไบโอติก” มีความสำคัญหลายมิติในทุกช่วงของการเลี้ยง เริ่มตั้งแต่เตรียมน้ำจนถึงการจับกุ้ง โดยต้องใช้โปรไบโอติกหลากหลายชนิดอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอตลอดการเลี้ยง ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้กุ้งแข็งแรง และให้ผลผลิตที่ดี ปลอดสาร ตามมาตรฐานสุขอนามัย” นายเชี่ยวชาญ กล่าว
    รองกรรมการผู้จัดการ ด้านวิจัยการเลี้ยงกุ้งและเทคโนโลยีชีวภาพ ซีพีเอฟ กล่าวอีกว่า จากการเก็บตัวอย่างกุ้งที่ผ่านมา พบว่า บ่อเลี้ยงกุ้งที่มีการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะมีความหลากหลายของจุลินทรีย์ และได้ผลผลิตกุ้งในปริมาณที่สูงกว่าบ่อที่ไม่มีการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติก สะท้อนให้เห็นว่า การเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ ด้วยการบริหารจัดการจุลินทรีย์ที่ดีอย่างถูกต้องตามหลักการ ควบคู่กับการจัดการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ควบคุมคุณภาพน้ำให้นิ่ง
     ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กุ้งเครียด พร้อมรักษาคุณภาพน้ำและพื้นบ่อ ลดปริมาณเชื้อก่อโรค ลดของเสียในบ่อเลี้ยงที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะ สามารถช่วยลดปัญหาการเจ็บป่วยจากเชื้อก่อโรค และเพิ่มผลผลิตกุ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกด้านต่างๆ ในการเลี้ยงกุ้ง จึงเป็นนวัตกรรมการเลี้ยงที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กุ้งแข็งแรง ปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดสาร จัดเป็นแนวทางการเลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การผลิตอาหารปลอดภัยที่มีคุณภาพถึงผู้บริโภค./