2 รมต.เกษตร “ไทย-ซาอุฯ” ถกครั้งแรกชื่นมื่น ต่างเห็นพ้องขยายความร่วมมือภาคเกษตรด้วยกันแบบ B2B-จับคู่ทางธุรกิจ

  •  
  •  
  •  
  •  

การเจรจา 2 รัฐมนตรีเกษตร “ไทย-ซาอุดีอาระเบีย” ครั้งแรกชื่นมื่น ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนในลักษณะB2B และการจับคู่ทางธุรกิจ หวังเพิ่มโอกาสการค้าและการลงทุนด้านเกษตรและอาหาร ฝ่ายซาอุฯสบช่องชวนภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้านการเกษตร ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้

วันที่ 30 กันยายน 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายอับดุลเราะห์มาน บิน อับดุลมุห์สิน อัลฟัฎลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม น้ำ และการเกษตร แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ ทั้งสองฝ่าย กระทรวงการต่างประเทศของไทย และสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรองกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า นโยบาย Saudi Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย และโมเดล BCG ของไทยมีความสอดคล้องกัน

เน้นการเสริมสร้างเศรษฐกิจที่มีความสมดุล รักษาสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงทางอาหาร และเน้นการบูรณาการทรัพยากรธรรมชาติทั้ง 5 อย่าง ได้แก่ ระบบนิเวศ ดิน ป่าไม้ ที่ดิน และน้ำ ยึดหลักเกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เกษตรธรรมชาติ และวนเกษตร

ทั้งนี้ด้านการค้าสินค้าเกษตร ฝ่ายไทยได้ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารปรุงสุกที่มีคุณภาพไปยังซาอุฯ ส่วนฝ่ายซาอุฯ ได้กล่าวถึงตลาดซาอุฯ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและความปลอดภัย มีกำลังซื้อสูง และซาอุฯ ยังสามารถเป็นประตูไปสู่ประเทศแถบตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องให้มีการขยายความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนในลักษณะ Business to Business (B2B) และการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าและการลงทุนด้านเกษตรและอาหาร

นายเฉลิม กล่าวอีกว่า การหารือในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีกลไกความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน โดยฝ่ายซาอุฯ เสนอให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) และมอบหมายให้สำนักการเกษตรต่างประเทศเป็น ผู้ประสานงานหลักของไทย ส่วนความร่วมมือด้านการประมงนั้น ซาอุฯ มีความยินดีที่จะร่วมมือกับไทย ทั้งการแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ เทคโนโลยี และกฎระเบียบการลงทุนด้านกิจการประมงในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งภาคเอกชนของไทยได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีเกษตรฯ ซาอุฯ ขอเชิญรัฐมนตรีเกษตรฯ ของไทยเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือและขยายความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน พร้อมทั้งเชิญชวนภาครัฐและภาคเอกชนของไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้านการเกษตร ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ที่ซาอุฯ ด้วย

ในโอกาสนี้ รมว.เกษตรฯ ได้ขอบคุณที่ซาอุดีอาระเบียที่ได้สนับสนุนให้มีการส่งออกปุ๋ยมายังไทยเพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อแก้ไขการขาดแคลนปุ๋ย รวมทั้ง เห็นพ้องกันว่าการหารือในวันนี้เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงเกษตรฯ ของทั้งสองประเทศ และจะส่งผลถึงการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนด้านการเกษตรและอาหารระหว่างกัน ที่มีส่วนในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

จากข้อมูลซาอุดิอาระเบียเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 29 ของไทย โดยระหว่างปี 2562-2564 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ย 6,836 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 6,791 ล้านบาท ไทยนำเข้า 46 ล้านบาท ซึ่งสินค้าเกษตรส่งออกของไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ค และปลาโบนิโต 2) ข้าว 3) สับปะรด 4) ข้าวโพดหวาน 5) อาหารสุนัขหรือแมว

ส่วนสินค้าเกษตรนำเข้าจากซาอุฯ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) อาหารปรุงแต่ง เช่น เต้าหู้ เครื่องดื่มสำเร็จรูป 2) อาหารสัตว์ 3) ลูกนัทหรือผลไม้แห้ง 4) ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยแช่แข็ง และ 5) ไม้ต้น ไม้พุ่ม และไม้กอ ที่ให้ผลไม้หรือลูกนัท

สำหรับคณะผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่ายที่ร่วมในการหารือครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้แก่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพิศาล พงศาพิชญ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และ นายดามพ์ บุญธรรม อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (ว่าที่เอกอัครราชทูตไทยประจำซาอุดีอาระเบีย) และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง