“อลงกรณ์” เล็งชง “เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์-ปัดฝุ่นโครงการประตูตะวันตก” เข้าที่ประชุม กรกอ.สมัยหน้า

  •  
  •  
  •  
  •  

“อลงกรณ์” เล็งชง “เพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์” ภายใต้แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก เข้าที่ประชุม กรกอ.สมัยหน้า พร้อมปัดฝุ่นโครงการประตูตะวันตก “กาญจนบุรี-ทวาย” หวังเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเขตส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันตก หลังพิษโควิดทำให้สดุดลง เร่งขับเคลื่อนโครงการโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง

         วันที่ 21 สิงหาคม 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กรกอ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม กรกอ. ครั้งที่ 3/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting ว่า ขณะนี้มี 4 กลุ่มจังหวัดที่กำลังเดินหน้าจัดตั้งเขตส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมกันแล้ว และในการประชุม กรกอ.ครั้งหน้า ตนจะเสนอโครงการเพชรบุรีฟู้ดวัลเลย์(Petchburi Food Valley) ภายใต้เกตเวย์ตะวันตกและระเบียงเศรษฐกิจตะวันตก (Western Economic Corridor)

ทั้งนี้เป็นโครงการพัฒนา ตั้งแต่ การผลิตพืช ประมงและปศุสัตว์ การแปรรูปขั้นต้น การใช้เกษตรอัจฉริยะสมาร์ทฟาร์มมิ่ง การใช้เครื่องจักรกลเกษตรที่ทันสมัย การพัฒนาศูนย์วิจัยเพื่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกร เป็นหนึ่งใน “เพชรบุรีโมเดล”ดำเนินการโดยภาคเอกชน ภายใต้การสนับสนุนของกรกอ.และศูนย์ AIC

นอกจากนี้ตนจะเดินทางไปกาญจนบุรีเพื่อฟื้นฟูและเร่งรัดโครงการประตูตะวันตกโดยเฉพาะโครงการกาญจนบุรี-ทวาย ซึ่งจะประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการ ทั้งในและต่างประเทศจากะวันออกกลาง อินเดีย จีน อาเซียน และญี่ปุ่น ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเขตส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันตก ยังเป็นโครงการที่มีศักยภาพ และอนาคตแต่ช่วงโควิดทำให้เกิดความชะงักงัน ตอนนี้สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย จึงต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการโดยเร็วอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับการประชุมในวันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบ 2 ประเด็นสำคัญ คือ  การขับเคลื่อนสาหร่ายพืชเศรษฐกิจใหม่ตามนโยบายอาหารแห่งอนาคต ที่มุ่งเน้นการผลิตสาหร่ายทะเล และสาหร่ายน้ำจืดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านเป็นอาหารคน อาหารสัตว์ อาหารเสริม เวชภัณฑ์ เครื่องสำอางค์ และน้ำมันชีวภาพ ซึ่งศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งและศูนย์เพาะเลี้ยงน้ำจืด เร่งเดินหน้าในการรวบรวมพันธุ์ การเพาะเลี้ยงและการเผยแพร่พันธ์ุ ซึ่งจะดำเนินการในพื้นที่ 50 จังหวัด แบ่งเป็น 22 จังหวัดชายฝั่งทะเล และ 28 จังหวัดบนบก

อีกประเด็นหนึ่ง การรับทราบผลการประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในวาระที่ประธาน กรกอ.และคณะกระทรวงเกษตรฯ ไปแสดงความยินดีกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสอท.ชุดใหม่ ซึ่งมีมติเห็นพ้องต้องกันใน 10 โครงการของ “กรกอ.” ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาแบรนด์สินค้าเกษตร สู่เกษตรมูลค่าสูง, 2.โครงการอาหารแห่งอนาคต, 3.โครงการส่งเสริมการลงทุนเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม Made In Thailand

4.โครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพเกษตร และ SME เกษตร, 5.โครงการความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรระหว่าง สวก. AIC และสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร ของ ส.อ.ท., 6.โครงการมหานครผลไม้และการพัฒนาอุตสาหกรรมผลไม้ และโครงการ Eastern Thailand Food Valley 7.โครงการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาล 8.โครงการ Smart Agriculture Industry (SAI in the City), 9.โครงการสนับสนุนการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ในฤดูกาลผลิตผลไม้ปี 2565 ,และ10.การฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้ง สินค้าประมงและปศุสัตว์ รวมทั้งระบบความเย็น (Cold Chain system)

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ได้แก่ แนวทางและมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในกลุ่มจังหวัดนำร่อง โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้แจ้งให้ทราบว่าบีโอไอ (BOI) ได้อนุมัติเพิ่มมาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตรแล้ว รวมถึงการรับทราบผลการดำเนินงานของ กรกอ.ภาคในการจัดทำแผนพัฒนาสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารปี 2566 – 2570 ตามศักยภาพแบบครบวงจรให้แล้วเสร็จภายในกันยายนปีนี้ เพื่อประกาศแผนพร้อมกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า  ในโอกาสนี้ที่ประชุมได้ให้ข้อแนะนำในการจัดทำแผนพัฒนา และประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อาทิ เรื่องระบบโลจิสติกส์ (Logistics) เข้ามาสร้างโอกาสใหม่ๆโดยให้ 18 กลุ่มจังหวัด ร่วมกับ กรกอ. และ BOI ดำเนินการร่วมกัน ซึ่งถ้าสามารถบริหาร Logistic ได้ ก็จะสามารถลดต้นทุนได้ เช่น อีสานเกตเวย์ มีรถไฟจีน-ลาวเป็นเส้นทางขนส่งระหว่างประเทศ เวสเทิร์นเกตเวย์หรือประตูตะวันตกมี “กาญจนบุรี-ทวาย” เป็นประตูตะวันตก หรือประตูเหนือมีเชียงรายใช้เส้นทางR3A เป็นโลจิสติกส์ลิงก์ (Logistics Link) เป็นต้น

ในส่วนของโครงการ Eastern Thailand Food Valley : ETEV ภายใต้ EEC ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ร่วมในการสนับสนุนนั้น ตนและคณะรวมทั้ง
กรกอ.ภาคตะวันออกจะลงพื้นที่ภาคตะวันออกในเดือนหน้าเพื่อเร่งจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการผลไม้ครบวงจรที่จันทบุรี พร้อมกล่าวชื่นชมการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ที่มีการประสานบูรณาการการจัดทำแผนพัฒนาระหว่าง กรกอ. BOI และ สภาพัฒน์ฯไปในทิศทางเดียวกัน