พิลึกกึกกือ อาทิตย์เดียวราคาน้ำยางสดร่วง กก.ละกว่า 10 บาท ทวนกระแสน้ำมันดิบแพง ฤา…ขบวนการไล่ทุบราคาคืนชีพอีก?

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกกำลังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ที่จะส่งผลยางสงเคราะห์ราคาแพงขึ้นตาม แต่น้ำยางสด ซึ่งเป็นยางธรรมชาติในประเทศไทยกลับลดฮวบลงอย่างน่าใจหาย เพียงอาทิตย์เดี่ยวร่วงลงไปแล้ว กก.ละ กว่า10 บาท เมื่อเทียบกับช่วงต้นสัปดาห์แรกของเดือนนี้ที่แตะ กก.ละ 67.30 บาท แต่วันนี้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ กก.ละ 56.80 บาท

นายสุนทร รักษ์รงค์  กรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ดกยท.) เผยกับ “เกษตรทำกิน” ว่า ทางกยท.กำลังหาทางแก้ไขปัญหาที่คิดว่าเกิดมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ค่าเงินเฟ้อเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้ยางที่มีการชะลอตัวไปด้วย โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ที่มีปัญหากับจีนทำให้การส่งออกผลิตที่ทำมายางธรรมชาติไปยังสหรัฐฯน้อยลง ขณะเดียวจีนยังมีปริมาณยางในสต็อกอยู่จำนวนหนึ่ง

กระนั้นมั่น ก็ไม่ได้มองข้ามกับผู้ประกอบส่งออกยางพาราอาจมีส่วนในทุบราคายางเหมือนปีที่แล้ว แต่มั่ใจว่า น่าจะเป็นระสั้นๆหากดูปัจจัยอื่น อาทิ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น และการพัฒนารถไฟฟ้าในหลายประเทศที่จะต้องยางมากขึ้น ในขณะที่ราคายางสังเคราะห์อาจแพงขึ้นตามราคาน้ำมันเป็นต้น

สอดคล้องกับนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ที่ได้ออกเปิดเผยก่อนหน้นี้ว่า  ราคาน้ำยางสดในช่วงนี้มีการย่อตัวลง เป็นช่วงปรับฐานราคา แต่ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยราคาน้ำยางสดเฉลี่ยในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ 51.59 บาท/กก.ส่วนสาเหตุผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวลดลงเพราะค่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ยางที่มีการชะลอตัว จีนเข้มงวดกับมาตรการ Lock Down ซึ่งการผลิตและบริโภคในจีนจึงน้อยลงเชื่อว่าราคายางจะคงตัวอยู่ในระดับนี้ในระยะสั้นๆ

ทั้งนี้เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยดันให้ราคายางสูงขึ้นอีกได้ เช่น สภาพอากาศที่ยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อยลง ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีแนวโน้มความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้น ทั้งอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ปัจจุบันกำลังขยายตัวขึ้นเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปเมือเวลาไล่เลี่ยกับปีที่แล้ว จะพบว่าในเดือนมิถุนายน   2564 ก็มีเหตุการณ์ราคาน้ำยางสดลดฮวบลงเช่นกันจะเห็นได้จากวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ราคานํ้ายางสดอยู่ที่ 63.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) พอวันที่ 1 มินายน 2564 ลดลงมาเหลือ 56.50 บาทต่อ กก.(ราคาเดียวกันกับวันนี้) หรือลดลง กก.ละ 7 บาทในวงการ

การที่ราคาน้ำยางสดลดลงเมื่อปีที่แล้ว หลายฝ่ายมีการมองว่าถูกผู้ประกอบการส่งออกทุบราคา ที่ดำเนินเป็นขบวนการไล่ทุบราคายาง เพื่อปรับฐานราคาใหม่เป้าหมายในการปรับราคาฐานวัตถุดิบ “น้ำยางสด”ที่รับไปปั่นเป็นน้ำยางข้น ส่วนคู่แข่งชิง “น้ำยางสด” ในตลาดก็คือ ยางพารารมควัน ดังนั้น คนไล่ทุบ ก็จะได้ 2 เด้ง เป็นการทุบราคายางพารารมควันไปด้วย คราวเดียวกัน (ที่มา :ฐานเศรษฐกิจ)

แม้ปีที่แล้วราคาน้ำยางสดที่ลดลง พอยังมองปัจจอื่นที่นอกเหนือไปจากการมีกระบวนการไล่ทุบราคาคือได้รับปัจจัยกดดันจากการที่ ราคาตลาดล่วงหน้าต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงส่งผลให้ราคายางสังเคราะห์คาราลดลงตามด้วย ประกอบกับการที่มีปริมาณยางออกสู่ตลาดมาก รวมถึง ค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ปีนี้และขณะนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นแต่ราคาน้ำยางสดกลับลดลง ซึ่งเป็นการสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง หรือขบวนการเก่าคืนชีพอีกครั้ง

ที่มาตารางราคา : การยางแห่งประเทศไทย