ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมกราคม 2565 ส่วนใหญ่ขยับขึ้น

  •  
  •  
  •  
  •  

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ชี้ความต้องการสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่และมาตรการของภาครัฐ ทำให้ในเดือนมกราคม 2565 ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ ทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ สุกรกุ้งขาวแวนนาไม และโคเนื้อ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ด้านข้าวเปลือกเจ้ามันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มราคาปรับลดลง

    นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนมกราคม2565โดย สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่

     ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิราคาอยู่ที่ 9,966 – 10,075 บาท/ตันเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.17 – 2.27 เนื่องจากฮ่องกงมีความต้องการใช้ข้าวหอมมะลิเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับภาครัฐดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฯ เพื่อชะลอการขายข้าวที่ออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา

     ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวราคาอยู่ที่ 8,160-8,460 บาท/ตันเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.18-4.90 เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวนาปีออกสู่ตลาดน้อยลง และภาครัฐดำเนินมาตรการโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี

    ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาอยู่ที่ 9.08 – 9.16 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.85 – 1.73เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 เข้าสู่ช่วงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 2 (ข้าวโพดหลังนา) ทำให้ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดน้อยโดยมีผลผลิตเพียงร้อยละ 2.59 ของปริมาณผลผลิตทั้งปี ขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตอาหารสัตว์ยังคงเพิ่มขึ้น ประกอบกับยังมีการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับเพิ่มราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่

     น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 18.97 – 19.41 เซนต์/ปอนด์(14.05 – 14.38 บาท/กก.)เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.87 – 4.25 จากความต้องการนำเข้าน้ำตาลของหลายประเทศที่เพิ่มขึ้น เพราะปริมาณน้ำตาลของประเทศผู้บริโภคเริ่มลดลงและค่าระวางเรือที่ปรับลดลงทำให้ต้นทุนการนำเข้าน้ำตาลลดลง ประกอบกับความต้องการเอทานอลที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในบราซิลปรับลดสัดส่วนจากการนำอ้อยเพื่อผลิตเป็นน้ำตาลทราย เปลี่ยนเป็นผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้น อีกทั้งโรงงานน้ำตาลในประเทศบราซิล 57 โรงงาน ได้ปิดทำการในช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายของโลกปรับตัวลดลง 

    ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 54.95 – 55.90 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.46 – 5.25เนื่องจากความกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้มีความต้องการใช้ถุงมือยางในอุตสาหกรรมทางการแพทย์เพื่อใช้ในการรักษาโรคไวรัสโควิด-19 หรือฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้กับคนไข้เพิ่มขึ้น ประกอบกับภาครัฐดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพยางพาราของภาครัฐในการดูดซับผลผลิตยางพาราในตลาด

     สุกร ราคาอยู่ที่ 77.56 – 81.29 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ1.45 – 6.31เนื่องจากความต้องการเนื้อสุกรของร้านอาหารและผู้บริโภคเพื่อใช้ในการบริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มีผลผลิตสุกรมีแนวโน้มลดลงจากการที่ผู้เลี้ยงสุกรจะชะลอการผลิตเพราะต้นทุนการผลิตที่สูง

     กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 163.73 – 164.39 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.45 – 0.85 เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตกุ้งขาวแวนนาไมออกสู่ตลาดน้อย เพียงร้อยละ 5.82 ของผลผลิตทั้งปี ขณะที่ความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้นตามความเชื่อมั่นการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัวและการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ

      และโคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 98.00 – 101.00 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.29 – 3.36 เนื่องจากบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ แม้จะมีการยกเลิกการจัดงานในบางพื้นที่ แต่ยังไม่มีการจำกัดการเดินทางกลับภูมิลำเนา เอื้อต่อธุรกิจท่องเที่ยวบริการและร้านอาหารต่างๆสามารถเปิดบริการได้ รวมถึงการทยอยส่งโคเนื้อมีชีวิตไปจำหน่ายยังประเทศจีนผ่านประเทศลาว ปัจจุบันมีความต้องการซื้อแล้วกว่า 5 แสนตัว ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาโคเนื้อที่เกษตรกรขายได้

     ส่วนสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15%ราคาอยู่ที่ 7,644 -7,701 บาท/ตันลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.70-1.43 เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาส่งออกข้าวกับประเทศคู่แข่งยังคงรุนแรง และประเทศอินเดียผู้ส่งออกข้าวอับดับ 1 ของโลก ระบายข้าวในสต็อกเพิ่มขึ้น

    มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.20 – 2.26   บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.88 – 3.51 เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือนมกราคม 2565 ประมาณ 6.59 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 20.15 ของผลผลิตทั้งปีการผลิต 2564

    ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 8.10-8.40 บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.22-6.60 เนื่องจากมาตรการภาครัฐยังคงขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานสกัดตรึงราคาน้ำมันปาล์มดิบจากการที่ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับตัวสูงขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค รวมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับโควิดระลอกใหม่อาจส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมันในการเดินทางลดลง.