ธ.ก.ส. ร่วมลงทุน 2 บริษัท นํานวัตกรรมขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยทั้งการตลาด-บันทึกแปลงที่ดิน

  •  
  •  
  •  
  •  

ธ.ก.ส. ร่วมลงทุน 2 บริษัท “คิว บ็อกซ์ พอยท์”  ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Farmbook ที่ช่วยเกษตรกรวางแผนการผลิตพืชผักอาหารปลอดภัยในลักษณะซื้อขายล่วงหน้า และ “อินฟิวส์” ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน “มะลิซ้อน” ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการบันทึกแปลงที่ดินของเกษตรกรและแจ้งการขอชดเชยค่าสินไหม หนุนการนำเทคโนโลยีด้านการเกษตร เข้ามาร่วมพัฒนา สร้างมูลค่าเพิ่มทางการผลิตและการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมอื่น ๆ และมีอุดมการณ์ในการพัฒนาภาคเกษตร แต่ขาดโอกาสในการเพิ่มทุนให้เข้ามาร่วมงานกับ ธ.ก.ส. มากขึ้น

      นายณรงค์  ขันติวิริยะกุล ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เกษตรกรรายย่อยให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพองค์กรและชุมชน โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนนอกเหนือจากการให้สินเชื่อในรูปแบบปกติ โดยเฉพาะผู้ประกอบการบางกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยการกู้ยืม (Debt Financing) และบางธุรกิจมีลักษณะการดำเนินกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)แต่ไม่มีศักยภาพในการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตร

     ธ.ก.ส. จึงได้ขับเคลื่อนแนวทางการทำธุรกิจภายใต้โครงการร่วมทุน (Venture Capital) กับผู้ประกอบการภาคการเกษตรไทยเพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการมีทุนในการดำเนินธุรกิจในระยะแรกและสามารถยกระดับไปเป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็งในสัดส่วนร่วมลงทุนไม่เกินร้อยละ 49 ของจํานวนหุ้นหลังการระดมทุน ระยะเวลาร่วมลงทุนไม่น้อยกว่า 3 ปีแต่ไม่เกิน 10 ปี โดยธ.ก.ส. ได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ และนำเสนอผ่านความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรี จำนวน 2 รายได้แก่

      1.บริษัท คิว บ็อกซ์ พอยท์ จํากัด ซึ่งประกอบธุรกิจเทคโนโลยีการเกษตรภายใต้แพลตฟอร์ม “Farmbook”ที่ช่วยเกษตรกรวางแผนการผลิตให้สัมพันธ์กับความต้องการของตลาดในลักษณะซื้อขายล่วงหน้าโดยเฉพาะในด้านการผลิตพืชผักอาหารปลอดภัย ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวนอกจากเชื่อมโยง กลุ่มผู้ผลิตไปยังตลาดสำคัญ เช่น ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด ร้านอาหาร โรงแรม เป็นต้น ยังสามารถดำเนินการตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งผลิต ทำให้ผู้ขายและผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพความปลอดภัยและพร้อมให้การสนับสนุน ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรผู้ผลิตมีรายได้เพิ่มขึ้น คาดว่าตลอดระยะเวลาการร่วมลงทุนจะมีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมใช้บริการในแพลตฟอร์มดังกล่าวกว่า 1,300 กลุ่ม โดยวางเป้าหมายสร้างรายได้สู่กลุ่มเกษตรกรประมาณ 1,200 ล้านบาท

    2.บริษัท อินฟิวส์ จํากัดซึ่งเป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน “มะลิซ้อน” ที่ช่วยอํานวยความสะดวกให้กับเกษตรกรในการบันทึกแปลงที่ดินและสามารถแจ้งการประสบภัยเพื่อขอชดเชยค่าสินไหมทดแทนกรณีเอาประกันภัยพืชผลทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำอีกทั้งบริษัทได้เตรียมแผนขยายระบบการบริหารจัดการแปลงเกษตรอย่างครบวงจรเพื่อให้เกษตรกรสามารถเชื่อมโยงกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ในการลดความเสี่ยงด้านการผลิตและสามารถวางแผนการเพาะปลูกได้ดีขึ้นโดย ธ.ก.ส. จะสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ทำประกันภัยผ่าน ธ.ก.ส. เข้าร่วมใช้บริการดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยงด้านการผลิต

    นายณรงค์ กล่าวอีกว่า ธ.ก.ส. พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นStartupรายอื่น ๆ ที่มีอุดมการณ์ในการพัฒนาภาคการเกษตร มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมายกระดับการผลิตและเป็นหัวขบวนในการนำการเปลี่ยนแปลงให้กับคนในชุมชน หรือเป็นกลุ่มวิสาหกิจ ที่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมายมีนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเกษตรมีโครงการวิจัยที่ได้รับทุนจากหน่วยงาน   ต่าง  ๆ รวมถึงมีแผนธุรกิจ (Business Plan) ที่มีความเหมาะสมตามคุณลักษณะและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชนในแต่ละภูมิภาค อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป.