ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ชี้การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และยอดฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน รวมถึงความต้องการของตลาดโลกทำให้ราคาสินค้าเกษตรเดือนตุลาคม2564 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ น้ำตาลทรายดิบมันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน กุ้งขาวแวนนาไม และโคเนื้อ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น แต่ด้านข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพาราแผ่นดิบ และสุกรมีแนวโน้มราคาปรับลดลง
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนตุลาคม2564 โดย สินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่
ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 10,035-10,090 บาท/ตันเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 2.45-3.01 เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ อาทิ มาตรการเปิดห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ส่งผลให้มีความต้องการใช้ข้าวหอมมะลิของร้านอาหารเพิ่มขึ้น
น้ำตาลทรายดิบ ตลาดนิวยอร์กราคาอยู่ที่ 19.31-19.49 เซนต์/ปอนด์ (13.98-14.11 บาท/กก.)เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.70-1.60 จากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งส่งผลดีต่อราคาเอทานอลและกระตุ้นให้โรงงานน้ำตาลในประเทศบราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอลและลดการผลิตน้ำตาลลง ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในประเทศบราซิลส่งผลให้ผลผลิตอ้อยลดลง และปัญหาการส่งออกน้ำตาลของประเทศอินเดียที่ยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องคำตัดสินของ WTO ที่อาจจะพิจารณาตัดสินเอาผิดกับประเทศอินเดียในเรื่องนโยบายอุดหนุนการส่งออกน้ำตาล โดยจะกระทบต่อการส่งออกน้ำตาลของประเทศอินเดีย ทำให้ผลผลิตน้ำตาลในตลาดโลกลดลง
มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.13-2.18 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.47 – 2.83 เนื่องจากเป็นช่วงต้นฤดูกาลผลิตมันสำปะหลัง ปีการผลิต 2564/65 ผลผลิตออกสู่ตลาดยังไม่มาก และไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการโดยผลผลิตที่ออกสู่ตลาดในเดือนตุลาคม 2564 ส่วนใหญ่จะถูกส่งเข้าสู่โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง
ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 7.46-7.58 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 3.81-5.44 เนื่องจากสต็อกน้ำมันจากพืชทั่วโลกลดลงจากการเกิดคลื่นความร้อนและการระบาดของแมลงศัตรูพืชในประเทศผู้ผลิตสำคัญ ประกอบกับประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มอันดับสองของโลกประสบปัญหาข้อจำกัดการเดินทางของกำลังแรงงานต่างชาติจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต
กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 124.77 – 126.08 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.40 – 2.50 เนื่องจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนตุลาคม 2564 ทำให้ร้านอาหารกลับมาดำเนินกิจการได้ตามปกติ ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศที่เพิ่มขึ้น ประชาชนจึงมีความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวและการรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้น และคาดว่าการส่งออกกุ้งในเดือนตุลาคมอาจจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ราคาส่งออกกุ้งไทยสามารถแข่งขันกับคู่แข่งขันได้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคม 2564 เป็นช่วงเทศกาลกินเจซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยกดดันราคากุ้งให้ปรับตัวลดลง
โคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 95.50 – 96.00 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.40 – 0.93จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ที่ขยายให้กิจการสามารถเปิดบริการเพิ่มขึ้น คาดว่าจะช่วยเพิ่มความต้องการบริโภคเนื้อโค อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ อาจทำให้ความต้องการบริโภคเนื้อโคลดลง และกระทบต่อราคาขายโคเนื้อมีชีวิตของเกษตรกรได้
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15%ราคาอยู่ที่ 7,350-7,430 บาท/ตันลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.10-1.17 เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากราคาข้าวในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงจากราคาข้าวของประเทศเวียดนามในตลาดโลกที่ปรับลดลง เพราะผลจากการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ทำให้ขาดแคลนแรงงานในกิจกรรมการผลิตข้าว
ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 8,010-8,204 บาท/ตันลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.71-3.07 เนื่องจากปริมาณน้ำฝนสะสมที่เพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุโกนเซินที่พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวเหนียวที่สำคัญ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวเหนียวนาปีเพิ่มขึ้น
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5%ราคาอยู่ที่ 7.95-8.08 บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.60-2.20 เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ขณะที่คาดว่าผู้ประกอบการจะนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนมากขึ้นจากสัญญาส่งมอบข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองในเดือนธันวาคม 2564 ที่ปรับลดลงร้อยละ 1.04 ร้อยละ 1.13 และร้อยละ 1.67 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการยังแข่งขันด้านราคารับซื้อเพื่อจูงใจให้เกษตรกรลงทะเบียนขายผลผลิตให้กับบริษัทตน จะส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้
ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 48.00-48.50 บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.06 -1.19 เนื่องจากปัจจัยหลักจากความไม่แน่นอนในสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ส่งผลต่อความต้องการนำเข้ายางพาราจากไทยลดลง ถึงแม้ว่าราคายางพาราไทยจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และปริมาณยางพาราออกสู่ตลาดน้อย ประกอบกับทางตอนใต้ของประเทศไทยยังมีฝนตกชุกและขาดแคลนแรงงานกรีดยางก็ตาม
และ สุกรราคาอยู่ที่ 64.73-66.11บาท/กก.ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.37-3.43 เนื่องจากการเข้าสู่เทศกาลกินเจที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-14 ตุลาคม 2564 ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งงดบริโภคเนื้อสัตว์ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง.