ธ.ก.ส. ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศจีน สาขากว่างซี และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) พัฒนาธุรกิจธนาคาร ทั้งการวางแผนเชิงกลยุทธ์การตลาดนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์การจัดหาเงินทุนสำหรับวิสาหกิจเอสเอ็มอี และธุรกิจการชำระดุลการค้าต่างประเทศ การบริหารการเงินรวมถึงสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ พร้อมพัฒนาการให้บริการด้านธุรกิจต่างประเทศเงินสกุล RMB (หยวน) เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับ Smart Farmer และผู้ประกอบการภาคเกษตรไทย
นายรัตนะชัย ดำเนินสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ธนาคารแห่งประเทศจีน สาขากว่างซี(Bank of China Guangxi Branch)และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) (Bank of China (Thai) Public Limited (BOCT))ได้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านธุรกิจต่างประเทศ(Strategic Cooperation Agreement)
รัตนะชัย ดำเนินสวัสดิ์
ทั้งนี้เพื่อร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์การตลาดนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์การจัดการสินทรัพย์และความรับผิดการจัดการความเสี่ยงการแบ่งปันทรัพยากรข้อมูลการจัดหาเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรวมถึงธุรกิจการเงินองค์กรธุรกิจตลาดระหว่างธนาคารธุรกิจตัวแทนการชำระเงินและธุรกิจการชำระดุลการค้าต่างประเทศและการบริหารการเงิน
นอกจากนี้ยังเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือกับกลุ่มธนาคาร Bank of China ด้านการชำระดุลและบริการโอนเงินระหว่างประเทศสกุลเงิน RMBหรือหยวนอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยอีกทั้งมีการดำเนินการจับคู่ธุรกิจในและต่างประเทศเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่เข้าหาช่องทางการต่อยอดธุรกิจ และลูกค้าในประเทศที่มุ่งแสวงหาตลาดในต่างประเทศ
รวมทั้งเป็นการสร้างความร่วมมือทางการเงินระหว่างประเทศแบบไตรภาคีโดยใช้ประโยชน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆอาทิการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนว่าด้วยความร่วมมือและการพัฒนาทางการเงินเสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคีส่งเสริมนวัตกรรมธุรกิจสกุล RMB ระหว่างประเทศและอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนทวิภาคี
นายรัตนะชัยกล่าวอีกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้และพัฒนาการให้บริการด้านธุรกิจต่างประเทศสกุล RMBของ ธ.ก.ส. อีกทั้งเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้เกษตรกรรายย่อยด้วยกลไก Smart Farmer ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร (SMAEs) และสถาบันเกษตรกร และเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรของลูกค้าต่อไป