“แม็คโครไม่ได้เป็นคู่คิดทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคู้ค้า ที่คอยเคียงข้างในการพัฒนา เสริมทักษะความรู้ด้านการตลาด พฤติกรรมการบริโภคในแบบวิถีใหม่ของลูกค้าด้วย”
ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกของห้างสรรพสินค้าที่ถูกจำกัดความเป็นรูปแบบ “โมเดิร์นเทรด” ที่ต่างงัดกลยุทธ์ในการดึงลูกค้าในยุคที่ยอดจำหน่ายหดตัว อันเกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “โควิด-19” นั้น
ในส่วนของ “แม็คโคร” ที่ดำเนินกิจการในเมืองไทยยาวนานถึง 32 ปีได้ชื่อว่าเป็นธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งที่เดินเคียงข้างกับธุรกิจเอสเอ็มอี เกษตรกร และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตของผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศ ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับเศรษฐกิจฐานรากของไทย และการขับเคลื่อนธุรกิจที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องเติบโตเคียงข้างไปด้วยกัน และจะเดินเคียงข้างไปด้วยอีกต่อไป
เป้าหมายของแม็คโคร ผู้ประกอบการเติบโตไปพร้อมกัน
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บอกว่า ด้วยเป้าหมายการทำงานของแม็คโคร ในการเติบโตไปพร้อมกับการสนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกรรายย่อยที่เป็นคู่ค้า ให้พัฒนาสินค้าและผลผลิตสู่มาตรฐาน ทำให้เจ้าของธุรกิจรายเล็ก รายกลาง ได้รับโอกาสการขยายตัวไปพร้อมกัน
สำหรับซัพพลายเออร์ที่เป็นเอสเอ็มอี เกษตรกร และลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อย มีส่วนสำคัญที่ทำให้แม็คโครเติบโตจนถึงวันนี้ ด้วยการทำงานอย่างเข้าใจ ทำให้เอสเอ็มอีและเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ กว่า 7,500 ราย รวมทั้งลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยทั้ง ร้านค้าปลีก โชห่วย ร้านอาหาร ฯลฯ ได้รับโอกาสที่มากไปกว่า การซื้อมาขายไป แต่ยังจะได้รับคำชี้แนะแนวทางการพัฒนา ต่อยอด โดยมีแม็คโครเป็น คู่คิดธุรกิจ และพี่เลี้ยงที่มีระบบนิเวศน์และการกระจายสินค้าแบบผสมผสาน ทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) เข้าด้วยกัน
นางศิริพร กล่าวอีกว่า แม็คโครให้ความสำคัญกับพื้นฐานการทำงานที่ว่าด้วย คุณภาพ ความปลอดภัย และความถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล เป็นเรื่องสําคัญสูงสุด ที่แม็คโครได้คัดสรรสินค้าที่หลากหลาย ครบครัน มีคุณภาพดี ในราคาขายส่ง เพื่อให้ลูกค้าผู้ประกอบการรายย่อยในทุกกลุ่มของเรา สามารถลดต้นทุน ประกอบธุรกิจได้อย่างมีกําไร และเติบโต อย่างยั่งยืน
ไม่ได้เป็นแค่คู่คิดทางธุรกิจ แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข
“ในทุกช่วงเวลาแห่งการเติบโต แม็คโครไม่ได้เป็นคู่คิดทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขให้กับคู่ค้า ที่คอยเคียงข้างในการพัฒนา เสริมทักษะความรู้ด้านการตลาด พฤติกรรมการบริโภคในแบบวิถีใหม่ของลูกค้าด้วย อาทิ การส่งเสริมการทำผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงพร้อมทานแช่แข็ง ในขนาดบรรจุที่เหมาะกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่” นางศิริพร กล่าว
ส่วนลูกค้าผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย โชห่วย จำนวน 500,000 ราย และ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่มีอยู่กว่า 300,000 ราย แม็คโครได้ตั้ง โครงการแม็คโคร มิตรแท้โชห่วย และ แม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี ขึ้นมาดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมาแบ่งปันกับผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างทั้งยอดขาย ทำรายได้ และการขยายธุรกิจให้เติบโต
ช่วงโควิด ทำทุกวิถีทางให้ธุรกิจรายเล็ก เกษตรกรอยู่ได้
แม้ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากยุคโควิด-19 ธุรกิจรายเล็ก เกษตรกรเดือดร้อน แม็คโครก็ทำทุกวิถีทางที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเข้าไปช่วยเหลือรับซื้อผลผลิตที่ประสบปัญหา ร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ช่วยกันลดราคาสินค้าให้ผู้ประกอบการไม่ต้องแบกภาระต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมสภาพคล่องให้มีกำหนดระยะเวลาการชำระสินค้า (Credit Term) แก่เกษตรกรรายย่อย ไม่เกิน 30 วัน ก็ทำให้หลายธุรกิจมีกำลังเดินต่อไปได้
นอกจากนี้ แม็คโครยังไม่หยุดที่จะพัฒนาศักยภาพและต่อยอดธุรกิจให้เอสเอ็มอีเติบโตและขยายตลาดในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าจากผู้ผลิตเอสเอ็มอีมากกว่า 100 รายการถูกนำไปวางจำหน่ายผ่านสาขาของแม็คโครใน กัมพูชา และเมียนมา และมีอีกหลายรายที่กำลังจะดำเนินรอยตามต่อไป