กรมวิชาการเกษตรย้ำผู้ส่งออกผลไม้ไปจีน ต้องเข้มงวดป้องเชื้อโควิด เผยตรวจพบ 2 ครั้งถูกห้ามเข้าประเทศทันที

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมวิชาการเกษตร  ย้ำผู้ประกอบการให้ยึดแนวปฏิบัติป้องกันเชื้อ โควิด-19 อย่างเร่งครัด ตั้งแต่สวน  โรงคัดบรรจุ  จนถึงขั้นตอนขนส่งต้องเข้มข้นทุกขั้นตอน  เผยจีนหวั่นเชื้อ โควิด-19 ปนเปื้อนไปกับสินค้านำเข้าออกมาตรการตรวจเข้มงวด  พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และด่านตรวจพืชกำกับดูแลการปฏิบัติงานที่ล้งทุกขั้นตอนป้องโควิดก่อนตรวจปิดตู้ ระบุหากตรวจพบถึง 2 ครั้ง จะถูกห้ามรถสินค้าของบริษัทนั้นๆเข้าประเทศถาวรโดยอัตโนมัติทันที

       นายพิเชษฐ์   วิริยะพาหะ  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ด้วยสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยที่ยังมีอัตราการตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศสูงอย่างต่อเนื่อง ทางนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จึงได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรแจ้งเตือนผู้ส่งออกผลไม้ไปประเทศจีนให้เฝ้าระวังและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันเชื้อโควิด-19 ติดปนเปื้อนไปกับสินค้าผลไม้อย่างเคร่งครัด  

       เนื่องจากปัจจุบันฝ่ายจีนมีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก  โดยสินค้าผลไม้ที่ส่งออกจีนจะถูกตรวจกรดนิวคลิอิกเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ในสินค้า และตรวจหาเชื้อในคนขับรถสินค้า  รวมทั้งการพ่นฆ่าเชื้อในสินค้า โดยเฉพาะที่ด่านโม่ฮานที่มีการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก และได้มีการเน้นย้ำให้ผู้นำเข้าหรือบริษัทที่เป็นตัวแทนประสานกับผู้ส่งออกของไทยให้ทำการฆ่าเชื้อตู้คอนเทนเนอร์ทั้งภายในและภายนอก  รวมถึงห้องคนขับ  และฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์ก่อนขึ้นตู้

     ทั้งนี้หากตรวจพบเชื้อโควิด-19 สินค้าผลไม้ครั้งที่ 1 จะห้ามรถและสินค้าของบริษัทนั้นเข้าประเทศชั่วคราว 10-15 วันโดยอัตโนมัติ  หากตรวจพบครั้งที่ 2 ห้ามรถสินค้าของบริษัทนั้นเข้าประเทศถาวรโดยอัตโนมัติ  โดยในช่วงระหว่างวันที่ 15-22 กรกฎาคมที่ผ่านมามีการนำเข้าผลไม้ไทยที่ด่านโม่ฮานเฉลี่ยวันละประมาณ 100 ตู้

ดังนั้นกรมวิชาการเกษตรจึงขอย้ำเตือนผู้ประกอบการของไทยในการควบคุม  กำกับดูแลและป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดตั้งแต่สวน  โรงคัดบรรจุและขั้นตอนการขนส่งในทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ติดไปกับสินค้า  ซึ่งในขณะนี้จีนได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก  หากตรวจพบอาจนำไปสู่การระงับการนำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยได้

      จึงขอให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับโรงคัดบรรจุผลไม้อย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน   ซึ่งแนวทางดังกล่าวยึดตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) และ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โดยเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทางจีนให้การยอมรับพร้อมกับแนะนำให้ประเทศคู่ค้าปฏิบัติด้วยเช่นกันเพื่อควบคุมสุขอนามัยของพนักงานและสิ่งแวดล้อมในสถานที่ผลิต

นายพิเชษฐ์   กล่าวอีกว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าในขณะนี้จีนมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยเป็นอย่างมาก  จึงขอย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด  โดยจะมีเจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรเข้าไปติดตามกำกับดูแลที่โรงคัดบรรจุเพื่อให้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

     อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูกาลส่งออกผลไม้ทางภาคใต้โดยเฉพาะทุเรียน  โดยช่วงระหว่างวันที่ 1 – 26 กรกฎาคม 2564 มีการส่งออกทุเรียนไปจีนแล้วจำนวน 5,337 ตู้  และในเดือนสิงหาคมนี้จะมีผลผลิตทั้งทุเรียนและมังคุดออกสู่ท้องตลาดจำนวนมาก   จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7  จ.สุราษฎร์ธานี  ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ภายในพื้นที่ของกรมวิชาการเกษตร ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบใบรับรอง GAP  และศัตรูพืช เพื่อออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่ผู้ประกอบการส่งออก  

    พร้อมกันนี้กรมได้เพิ่มทั้งจำนวนบุคลากรและขยายระยะเวลาในการปฏิบัติงานจากเดิม 19.00 น.ไปจนถึง 22.00 น.เพื่อให้สามารถตรวจปิดตู้สินค้าให้กับผู้ประกอบการได้ทันโดยไม่มีสินค้าตกค้างในแต่ละวัน