บริษัทยันม่าร์ เอส พี เดินหน้าพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทย เพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวอย่างยั่งยืน ด้วยรถดำนา ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ล่าสุดลงพื้นที่นาจริงสาธิตการปลูกข้าวด้วยรถดำนายันม่าร์รุ่นใหม่ล่าสุด แบบนั่งขับ “ยันม่าร์ YR60D ” แบบ 6 แถว ที่พัฒนาให้เหมาะกับแปลงนาของเกษตรกรไทย เพื่อส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่หันมาใช้วิธีการปักดำเพื่อเพิ่มผลผลิต พร้อมแสดงสมรรถนะการทำงานของรถดำนา ณ แปลงสาธิต ต.วังงิ้ว อ.ดงเจริญ จังหวัดพิจิตร
นายธัชพล ชวินธนโชติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทยันม่าร์ เอส พี จำกัด ผู้นำเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรในประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ยันม่าร์ร่วมกับบริษัทกล้าแกร่งจำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้รถดำนา และได้สาธิตให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ไปเมื่อเร็วๆ นี้นั้น พบว่าเกษตรกรในหลายพื้นที่ให้ความสนใจและหันมาปลูกข้าวด้วยการใช้รถดำนาจำนวนมาก ล่าสุดยันม่าร์ได้มีโอกาสลงพื้นที่ทำแปลงสาธิตการปลูกข้าวด้วยรถดำนาอีกครั้งในพื้นที่ ต.วังงิ้ว อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร โดยร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และบริษัทกล้าแกร่ง
ทั้งนี้เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการปลูกข้าวด้วยรถดำนา หวังช่วยเกษตรกรไทยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และมีรายได้ที่มั่นคง เนื่องจากการใช้รถดำนาปลูกข้าวช่วยให้เกษตรกรใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย สามารถปรับระดับการปักดำต้นข้าวได้แม่นยำ ทำงานได้รวดเร็ว คล่องตัว และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
“แม้เกษตรกรจะเผชิญกับปัญหา COVID-19 แต่ยันม่าร์เองไม่เคยหยุดยั้งที่จะให้การสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ประสานงานไปยังหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ร่วมกันสาธิตการดำนาในครั้งนี้ขึ้น และที่สำคัญเกษตรกรและผู้เข้าร่วมงานทุกคน ล้วนปฏิบัติตนอยู่ภายใต้เกณฑ์การควบคุมโรค COVID-19 ที่รัฐบาลกำหนด จึงทำให้การสาธิตในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี”
นายธัชพล กล่าวต่อว่า สำหรับการสาธิตในครั้งนี้ ยันม่าร์ใช้รถดำนานั่งขับรุ่น YR60D แบบ 6 แถวเป็นเครื่องยนต์ดีเซล TNM ขนาด 3 สูบ 19 แรงม้า ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เครื่องยนต์ของยันม่าร์ ช่วยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้แรงขึ้น ทนขึ้น ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น สามารถทำการสาธิตต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังปักดำได้อย่างรวดเร็ว มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และนอกจากคุณภาพสินค้าแล้วในเรื่องของการบริการหลังการขายปัจจุบันยันม่าร์ได้ขยายศูนย์บริการรองรับความต้องการการใช้งานที่พร้อมๆ กันในช่วงฤดูทำนาในเขตภาคกลางและภาคเหนือ รวมทั้งได้ปรับราคาอะไหล่สิ้นเปลืองใหม่หลายรายการในราคาย่อมเยา
“การแบ่งปันความรู้ด้านการเกษตรด้วยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรมาช่วยทุ่นแรงให้กับเกษตรกร เป็นหน้าที่หลักของยันม่าร์ เพราะนี่เป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทยให้มีความรู้ความสามารถในการปลูกข้าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนการผลิต ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ รวมทั้งจำหน่ายผลิตผลได้ราคาดี อันจะนำมาซึ่งรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายธัชพล กล่าว
สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้านค้าตัวแทนยันม่าร์ทั่วประเทศ หรือ โทร.1638 และรับชมตัวอย่างสินค้ายันม่าร์ได้ที่ www.Yanmar.com หรือติดตามทาง Facebook Fan page: Yanmarthailandfanclub