ดื่มนมกันแล้วยัง? ชาวสหกรณ์ผู้เลี์ยงโคนมประสานเสียงชวนคนไทยดื่มนม… 1 มิ.ย. “วันดื่มนมโลก”

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                           ศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์

ชาวสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม ประสานเสียงชวนคนไทยดื่มนมเพื่อสุขภาพ “วันดื่มนมโลก”1 มิ.ย.64 ปีนี้จัดแคมเปญ “EnjoyDairy” ภายใต้สโลแกน “สร้างความสุข เสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มนมทุกวัน ดื่มได้ทุกวัย บริโภคนมได้หลากหลายเมนู”  เพื่อรณรงค์ให้มีการบริโภคผลิตภัณฑ์นมในทุกเพศทุกวัย หวังส่งเสริมอาชีพเกษตรกรเลี้ยงโคนมในประเทศไทย เผยคนไทยยังดื่มนมปริมาณที่น้อยเฉลี่ยตกคนละ 18 ลิตรต่อคนต่อปี  คิดเป็นสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 6 เท่า

        ตามที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี เป็น “วันดื่มนมโลก” หรือ “World Milk Day”เพื่อให้ประเทศและองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญและร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคนม 

        สำหรับวันดื่มนมโลก ประจำปี 2564 ได้มีการกำหนดแคมเปญไว้ว่า “EnjoyDairy” ภายใต้สโลแกน “สร้างความสุข เสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มนมทุกวัน ดื่มได้ทุกวัย บริโภคนมได้หลากหลายเมนู” เพื่อรณรงค์ให้มีการบริโภคผลิตภัณฑ์นมในทุกเพศทุกวัย

        ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดในเวลานี้การบริโภคนม ยิ่งมีความจำเป็น โดยเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้ผนึกขบวนการสหกรณ์โคนมในจังหวัดสระบุรี 7 แห่ง ร่วมกันบริจาคนมพร้อมดื่ม จำนวน 270 ลัง หรือจำนวน 9,720 กล่องให้กับผู้ป่วยที่มาพักรักษาตัว และบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักขณะนี้ ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม ภายในอาคารชาแลนเจอร์ 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี

        นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยภายหลังเป็นประธานในพิธีว่า วันดื่มนมโลกปีนี้นอกจากจะเป็นการส่งเสริมคนไทยให้บริโภคนมแล้ว ก็เห็นว่าควรจัดโครงการสนับสนุนนมพร้อมดื่มให้กับโรงพยาบาลสนาม เพื่อเป็นการส่งกำลังใจและความห่วงใยถึงผู้ป่วยโควิดและบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย 

        ดังนั้นจะเห็นว่าวันดื่มนมโลกปีนี้เครือข่ายสหกรณ์โคนมมีการจัดกิจกรรมแคมแปญออกมามากมายไม่ว่าจะเป็นการลดราคาหรือแจกผลิตภัณฑ์นม แม้กระทั่งการสาธิตการทำเมนูอาหารจากนมโคของเกษตรกรไทยเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์นม  นอกจากช่วยให้สุขภาพแข็งแรงแล้วยังช่วยเสริมสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานอีกด้วย 

        ปัจจุบันพบว่าคนไทยบริโภคนมเฉลี่ย 18 ลิตรต่อคนต่อปี  คิดเป็นสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 6 เท่า ซึ่งถือเป็นปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เช่น ประเทศญี่ปุ่นบริโภค 90 ลิตรต่อคนต่อปี ประเทศสิงคโปร์ 62 ลิตรต่อคนต่อปี สาธารณรัฐประชาชนจีน 38 ลิตรต่อคนต่อปีตามลำดับ ขณะที่อัตราค่าเฉลี่ยการบริโภคนมทั่วโลกอยู่ที่ 113 ลิตรต่อคนต่อปี

        สหกรณ์โคนมเชียงใหม่ จำกัด  ตั้งอยู่ริม.เชียงใหม่ – ลำปาง ต.ไชยสถาน อ.สารภี จ.เชียงใหม่ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมหลากหลาย ทั้งยูเอสที พาสเจอไรส์ไอศกรีม ภายใต้แบรนด์ CM MILK ซึ่งเป็น 1 ในสหกรณ์โคนมที่ได้ทำการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คนมาดื่มนมในวันดื่มโลก 1 มิถุนายน 2564 โดยมีการแจกนมคนละ 1 กล่องแก่ลูกค้าและบุคคลทั่วไปที่มาติดต่อกับสหกรณ์ ทั้งยังมีโปรโมชั่นตลอดเดือนมิถุนายน โดยซื้อผลิตภัณฑ์นมชนิดใดก็ได้จำนวน2ลังจะแถมให้อีก 1 แพค(6 กล่อง)ด้วย

        “อยากทุกคนมาดื่มนมเพื่อสุขภาพ นมของเรามาจากวัตถุดิบมีคุณภาพสูงจากโคนมที่เลี้ยงในพื้นที่โซนภาคเหนือมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมในการผลิตน้ำนมดิบที่มีคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ก็มีหลากหลายรสชาติทั้งสตรอเบอรี่ โกโก้ รสหวาน รสจืด ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์เด่นคือไอศกรีม วางจำหน่ายตามร้านในสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในเชียงใหม่” นายภาณุษิตปั๋มป้อม ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมเชียงใหม่ จำกัด  กล่าวถึงแคมเปญวันดื่มนมโลก พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนหันมาดื่นนมเพื่อสุขภาพในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังระบาดในขณะนี้

        ขณะที่สหกรณ์โคนมไทยมิลค์ จำกัด ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ไทยมิลค์ แม้ปีนี้ติดปัญหาโควิด-19 ระบาดไม่มีกิจกรรมทำแคมเปญเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่นายสันทัศน์ชื่นงูเหลือมประธานกรรมการฯเผยว่าที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมกับโครงการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนจัดขึ้นนอกจากนี้ยังได้ร่วมโครงการสนับสนุนนมพร้อมดื่มให้กับโรงพยาบาลสนามบุษราคัมร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ป่วยที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกด้วย

        “อยากให้ทุกหันมาดื่นนมทุกวันไม่เฉพาะวันดื่มนมโลกเท่านั้น  นมไทยมิลค์ผลิตจากนมโคแท้ ๆ รสจืดมีผลดีต่อสุขภาพ ของเราจะเน้นนมยูเอชทีเป็นหลัก รองลงมาเป็นพาสเจอไรส์ และขณะนี้กำลังทำลูกอมนมอัดเม็ดเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค” นายสันทัศน์ กล่าว เชิญชวนทุกคนมาดื่มนมในวันดื่มนมโลก

        เช่นเดียวกันสหกรณ์การเกษตรสีคิ้ว จำกัด อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมแบรนด์”นมโค-ราช”ซึ่งนายทองดีเชิดชู ประธานกรรมการสหกรณ์ฯเผยว่าแม้ปีนี้สหกรณ์ฯจะไม่ได้ทำกิจกรรมหรือแคมเปญใด ๆ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยการสนับสนุนผลิตภัณฑ์นมเข้าร่วม

        “ปีนี้ไม่ได้จัดเองแต่ช่วยสนับสนุนมากกว่า ไม่ใช่แค่วันดื่มนมโลกนะ แต่ที่ผ่านมาได้ช่วยสนับสนุนในทุกภาคส่วนมาตลอด ส่วนหนึ่งก็ได้ช่วยระบายนมในช่วงโควิด-19ระบาดด้วย กระทรวงเกษตรฯเองก็มีโครงการเยียวยาช่วยเหลือสหกรณ์โคนมต่าง ๆ ทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบด้วย ส่วนในพื้นที่โคราช เมื่อเร็ว ๆ นี้สหกรณ์เราก็ได้ร่วมกับหน่วยงานทหารสนับสนุนผลิตภัณฑ์นมนำไปแจกจ่ายให้กับเด็ก คนแก่ ผู้พิการตามแนวชายแดนในจ.สุรินทร์” นายทองดีกล่าวอย่างภูมิใจ

       ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวถึงกิจกรรมในวันดื่มนมโลก(World Milk Day)ซึ่งตรงกันวันอังคารที่ 1 มิถุนายน 2564 ว่าปีนี้สหกรณ์โคนมที่มีผลิตภัณฑ์นมแปรรูปเป็นของตนเองประมาณ 14 แห่งใน 12 จังหวัดทั่วประเทศได้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นการรณรงค์บริโภคผลิตภัณฑ์นมและมีการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย

       จึงขอเชิญชวนผู้สนใจไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพได้มาตรฐานจากสหกรณ์โคนมเหล่านี้ได้และที่พิเศษที่สุดหากหน่วยใดหรือผู้สนใจสั่งซื้อนมพร้อมดื่มจากสหกรณ์โคนมเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยหรือบุคลากรทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลต่าง ๆหรือโรงพยาบาลสนามในจังหวัดต่าง ๆ ก็จะได้รับส่วนลดเป็นกรณีพิเศษด้วย สนใจสอบถามโทร.02-2810032,084-6430430

        อย่างไรก็ตามปัจจุบันสหกรณ์โคนมในประเทศไทยมีจำนวน 105 แห่ง มีสมาชิกเลี้ยงโคนมจำนวน 11,393 ครอบครัว มีจำนวนโคทั้งหมด 427,311 ตัว ผลิตน้ำนมดิบในภาคสหกรณ์ได้ประมาณ 2,060 ตันต่อวันคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ58 จากทั้งหมด 3,547 ตันต่อวันของปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศโดยในจำนวนนี้สหกรณ์ที่มีโรงงานแปรรูปน้ำนมดิบ 28 แห่ง แยกเป็นโรงงานพาสเจอร์ไรส์ 16 แห่ง โรงงานพาสเจอร์ไรส์และยูเอชที 10 แห่ง โรงงานพาสเจอร์ไรส์และนมผง 1 แห่งและโรงงานพาสเจอร์ไรส์ ยูเอชทีและนมผง 1 แห่ง โดยรงงานแปรรูปของสหกรณ์ ซึ่งจะต้องได้รับรองมาตรฐานจีเอ็มพี(GMP)และHACCP ด้วย