“เฉลิมชัย”สั่ง กยท.ดันไทย “ฮับถุงมือยางโลก” หวังชิงส่วนแบ่งตลาด คาดจะมีถึง 3.6 แสนล้านชื้น

  •  
  •  
  •  
  •  

อลงกรณ์ พลบุตร

 “อลงกรณ์” เผย “เฉลิมชัย”สั่งการยางฯ เร่งเครื่องผลักดันไทยเป็นฮับถุงมือยางโลก ให้จับมือกระทรวงพาณิชย์  ใช้โมเดล “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” หวังชิงส่วนแบ่งตลาดในปี 2563 คาดการณ์ทั่วโลกจะมีต้องการใช้กว่า 3.6 แสนล้านชิ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท  ผู้ว่า กยท.รับลูก ผนึกบีโอไอ. เร่งส่งเสริมการลงทุนพร้อมสนับสนุนสินเชื่อ 2.5 หมื่นล้านหนุนแปรรูปสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ยางไทย

      วันที่ 2 กันยายน 2563  นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวที่กระทรวงเกษตรฯ  ว่า ทาง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เร่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับถุงมือยางของโลกโดยใช้โมเดล “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” รุกตลาดถุงมือยางซึ่งคาดการณ์ภาวะตลาดในปี 2563 ว่าจะมีความต้องการใช้กว่า 3.6 แสนล้านชิ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวเลขการส่งออกถุงมือยางของไทย ซึ่งเป็นอันดับ 2 ของโลกและมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 8–15% จึงเป็นข้อได้เปรียบและโอกาสที่ดีของชาวสวนยางและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมถุงมือยางของไทยทั้งตลาดเดิมและการเปิดตลาดในกลุ่มประเทศผู้ใช้ถุงมือยางรายใหม่ที่มีความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยการใช้น้ำยางพาราของไทย ซึ่งถือเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในการส่งออกน้ำยางเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงมือยางพาราแท้ 100 %

       นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ในวันพุธหน้า(9 ก.ย.63)คณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางและรักษาเสถียรภาพราคายางจะมีการประชุมครั้งที่ 5/2563 ตนในฐานะประธานจะมอบนโยบายให้ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม(ศูนย์AIC: Agritech and InnovationCenter)สนับสนุนกยท.ในการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์จากยางพาราธรรมชาติด้วยการวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับรายได้ชาวสวนยางสร้างเสถียรภาพราคายางและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยางทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำอย่างยั่งยืน

                                                              ณกรณ์ ตรรกวิรพัท  

     ด้านนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมแปรรูปยางของไทยเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะถุงมือยาง ทั้งนี้ กยท. ได้ออกมาตรการโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 25,000 ล้านบาท เพื่อให้กับผู้ประกอบกิจการยางขั้นปลายน้ำ ในการขยายกำลังการผลิต ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิต ซึ่งต้องเป็นผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ยางจากน้ำยางข้น และยางแห้ง เป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยางของประเทศไทยมีความเข้มแข็งในการเป็นผู้นำการผลิตและการส่งออกยางและผลิตภัณฑ์ยางของโลก โดยการผลักดันให้ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตถุงมือยางธรรมชาติของโลกตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

       นายณกรณ์ กล่าวด้วยว่า กยท. ได้ร่วมมือและบูรณาการกับหลายภาคส่วน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมยางทั้งระบบอย่างยั่งยืน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)เร่งส่งเสริมการลงทุนในกิจการยางพารา เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบกิจการยาง และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ทั้งด้านการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ด้านการลงทุน และด้านการบริการผ่านมาตรการต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการผลักดันเรื่องการตลาด การลงทุน และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์ยางของไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ระหว่างผู้ค้าและผู้ซื้อถุงมือยาง รวมไปถึงการบูรณาการร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) กรมวิทยาศาสตร์บริการ มหาวิทยาลัยต่างๆ และผู้ประกอบการถุงมือยาง เรื่องงานวิจัย พัฒนาด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีถุงมือยาง การลดปริมาณโปรตีนในถุงมือยางธรรมชาติ ซึ่งการวิจัยดังกล่าวได้คืบหน้าเป็นรูปธรรม ทำให้เชื่อได้ว่าถุงมือยางของประเทศไทยมีความปลอดภัยและสามารถส่งออกไปทั่วโลก