“มนัญญา” ดันสหกรณ์โคนมภูพานสกลนครสู่ฟาร์มมาตรฐาน GAP

  •  
  •  
  •  
  •  

“มนัญญา” ชมสหกรณ์โคนมภูพานสกลนครดำเนินการเรื่องของควบคุมคุณภาพดีแล้ว กำชับเรื่องการบริหารจัดการภายในสหกรณ์ให้เข้มแข็ง ย้ำการทำบัญชีให้เกิดประโยชน์ต่อสมาชิกอย่างสูงสุด  ย้ำต้องพัฒนาและตั้งฟาร์มโคนมสู่ฟาร์มมาตรฐาน GAP 

      นางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานสหกรณ์โคนมภูพานสกลนคร จำกัด ณตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร ว่า  ตามที่นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมการใช้ระบบตลาดนำการผลิต เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและสินค้าล้นตลาด ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเรื่องมาตรฐาน และการควบคุมคุณภาพน้ำนมดิบ ในเรื่องของการผลิตน้ำนมโค เพื่อผลิตนมโรงเรียน

      อย่างไรก็ตามทางสหกรณ์โคนมภูพานสกลนคร จำกัด นั้นทำได้ดีอยู่แล้ว ขอฝากเรื่องการบริหารจัดการของสหกรณ์ภายในให้เข้มแข็ง ดูแลการจัดการ การบัญชีให้เกิดประโยชน์ต่อสมาชิกอย่างสูงสุด รวมทั้ง การวางรูปการจัดตั้งฟาร์มโคนมให้ได้มาตรฐานGAP คือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี สำหรับฟาร์มปศุสัตว์ เริ่มตั้งแต่ระดับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ อาทิ  การจัดการระบบน้ำ โดยมีการจัดการระบบน้าที่ดี น้ำที่ใช้ภายในฟาร์มต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์  รวมถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมการจัดการของเสีย สิ่งปฏิกูล มูลสัตว์ น้ำทิ้ง และขยะต่างๆ ต้องผ่านการจัดการที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือก่อความรำคาญต่อผู้อยู่อาศัยข้างเคียง และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับการจัดการฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ให้ได้มาตรฐาน และคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น


     นางสาวมนัญญา กล่าวอีกว่า  ในการนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เยี่ยมชมศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์สกลนคร โรงรวมนมรับน้ำนมดิบ โครงการตามพระราชดำริซึ่งมีการรับน้ำนมดิบทุกวัน โดยนมดังกล่าว สามารถขายได้ตลอดทั้งปี โดยในช่วงเปิดภาคเรียนรับนมดิบของสมาชิกนำแปรูปเป็นนมพาสเจอไรซ์ ( Pasteurized Milk ) และช่วงปิดภาคเรียนส่งน้ำนมดิบจำหน่ายให้แก่เอกชนเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายเป็นนมกล่อง U.H.T. ( Ultra High Temperature )ภายใต้การดูแลคุณภาพและการผลิตโดยกรมปศุสัตว์รวมทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์และอบรมให้ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคนมเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการลดต้นทุน และการใช้ระบบตลาดนำการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และล้นตลาดอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป