กระทรวงเกษตรจับมือกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน ลงนาม MOU ว่าด้วยบริหารจัดการการขนส่งผลไม้ ช่วงวิกฤตโควิด-19 หวังกระจายผลไม้ถึงผู้บริโภคทั่วไทย 77 จังหวัดและส่งออก ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ ที่สังซื้อสืนค้าผ่านออนไลน์ ขณะที่กรมส่งเสริมการเกษตร เดินจัดแคมเปญ “ซื้อสินค้าเกษตรไทย เกษตรกรอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด” ล่าสุดสามารถช่วยเกษตรกรขายผลไม้ได้แล้วกว่า 2 กก. มูลค่ากว่า 78 ล้านบาท
วันที่ 9 เมษายน 2563 ได้มีพิธีการลงนามข้อตกลง (MOU)ว่าด้วยบริหารจัดการการขนส่งผลไม้ ช่วง COVID ระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชน โดยภาครัฐประกอบด้วยกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ส่วนภาคเอก ประกอบด้วยสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สมาคมขนส่ง สินค้าและโลจิสติกส์ไทย สมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย สมาคมผู้ประกอบการผักผลไม้ไทย และบริษัท ไทยฟินเทค จํากัด ณ กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อร่วมบูรณาการผลักดันการดําเนินงานขนส่งสินค้าผลไม้ เพื่อลดผลกระทบที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงผลผลิตกับสินค้าเกษตร
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ จะทำให้สินค้าเกษตรที่ออกสู่ตลาด และได้รับผลกระทบจากการขนส่งขณะนี้ จะได้ลดภาระที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรได้ ซึ่งทุกหน่วยงานที่ร่วม MOU จะร่วมบูรณาการในทุกมิติ ทั้งด้านการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางเรือ ให้สามารถ ดําเนินการกระจายผลผลิตไปได้ 77 จังหวัด และนอกประเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แลถะร่วมบูรณาการเชื่อมต่อระบบการจัดส่ง (Delivery) ที่มีอยู่ในประเทศ และใช้แพลตฟอร์ม หน่วยงานภาคเอกชนที่มีอยู่ บริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ทางด้านระบบการขนส่งเพื่อระบายสินค้าได้อย่าง รวดเร็ว และสร้างโอกาสที่จะขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องคํานวณอัตราค่าระวาง (Freight Chargeหรือค่าใช้จ่ายอื่น ด้วยความเป็นธรรม พร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ให้คําแนะนําที่เป็นประโยชน์และ อํานวยความสะดวกอย่างเต็มกําลัง
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร พลิกวิกฤตเป็นโอกาส จัดทำโครงการสนับสนุนสินค้าเกษตรไทยสู้ภัย COVID-19 ผุด Campaign “ซื้อสินค้าเกษตรไทย เกษตรกรอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด” แก้ไขปัญหาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ที่มีต่อสินค้าเกษตรไทยทั้งไม้ผล พืชผัก ไม้ดอก และอื่น ๆ ที่ส่งออกไม่ได้ช่วงนี้ พร้อมเชิญชวนหน่วยงาน บริษัท ห้าง/ร้านต่าง ๆ และประชาชนร่วมอุดหนุนสินค้าเกษตรคุณภาพดีจากเกษตรกรโดยตรง หรือส่งมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และครอบครัวที่อยู่ห่างไกลแทนความรักห่วงใย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตรสามารถ สรุปการช่วยเหลือเกษตรกรในการจำหน่วยสินค้าเกษตรช่วงสถานการณ์ COVID 19 ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 โดยแบ่งเป็นซื้อรับประทาน จำนวน 5,502 กก. มูลค่า 160,445 บาท และซื้อบริจาค 6,450 กก มูลค่า 133,050 บาท รวมสามารถช่วยเกษตรกรจำหน่าย 2,119,408 กก. มูลค่า 78,182,295 บาท