มร.ยูอิจิ คิตาโอะ
ประธานฯ”คูโบต้า” ประกาศจุดยืน 4 แผนการดำเนินธุรกิจอีก 10 ปีข้างหน้าผ่านที่ประชุมเนื่องในวาระ “คูโบต้าครบ 130 ปี เน้นการสร้างเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ให้เกิดขึ้นจริง-นำระบบ Digital Transformation เข้ามาใช้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ-ขยายขอบเขตการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการเกษตรกรรมอัจฉริยะและการจัดการสาธารณูปโภคอัจฉริยะจากคูโบต้า-ยึดหลักการบริหารงาน “คูโบต้า เป็นหนึ่งเดียว” มั่นใจจะนำพาคูโบต้า กรุ๊ปทั่วโลกสู่การเปลี่ยนแปลงโลกแห่งนวัตกรรมในอนาคตของคูโบต้า หวังวางรากฐานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคเกษตรกรรมสู่สังคมที่ดีขึ้น
“ในวาระครบรอบการก่อตั้ง130 ปี ของคูโบต้า ผมมีความยินดีที่ทุกท่านมาร่วมแสดงความยินดีในวันนี้ ความสำเร็จในวันนี้เกิดจากความร่วมมือของทุกท่าน จุดเริ่มต้นของบริษัทคูโบต้า” เสียงกึกก้องจาก มร.ยูอิจิ คิตาโอะ ( Yuichi Kitao) ประธานและกรรมการบริหารบริษัท คูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผ่านเวทีจัดงาน “ 130 th Anniversary Even of KUBOTA Group” ณ หอประชุม “เกียวโต อินเตอร์เนชั่นแนว คอนเฟอร์เร้นท์”
นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บ.สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย (ที่ 7 จากซ้าย)และคณะนำสื่อมวลชมไปทำข่าวและรวมงาน 130 th Anniversary Even of KUBOTA Group & KUBOTA EXHIBITION”ที่เมืองเกียวโต
ระหว่างวันที่ 15-16 มกราคม 2563 บริษัท คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้จัดงาน“ 130 th Anniversary Even of KUBOTA Group & KUBOTA EXHIBITION”ที่เมืองเกียวโต ปรระเทศญี่ปุ่น เนื่องในวาระครบรอบการก่อตั้งบริษัท 130 ปี โดยงานนี้จัดขึ้น 2 แห่งคือ งาน“ 130 th Anniversary Even of KUBOTA Group” จัดที่เกียวโต อินเตอร์เนชั่นแนว คอนเฟอร์เร้นท์ เป็นงานประชุมดีลเลอร์คูโบต้าทั่วประเทศญี่ปุ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนงาน “KUBOTA EXHIBITION” จัด ณ เคร้าซ์พลาซ่า ห่างกัยเพียงเล็กน้อย เป็นงานแสดงนิทรรศการความเป็นมาของคูโบต้า และเกี่ยวเทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมกรรมแห่งอนาคตของเครื่องจักรกลการเกษตรจากค่าย คูโบต้าตั้งแต่อดีตยัยมองถึงอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า
มร.ยูอิจิ คิตาโอะ ย้อนอดีตว่า คูโบต้า เริ่มตั้งแต่ปี 1890 โดย มร.กอนชิโร คูโบตะ (Mr.Gonshiro Kubota) ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 19 ปี ได้เริ่มก่อตั้งโรงงานเหล็กหล่อ และในช่วงเมจิที่ 23 เกิดการระบาดของอหิวาตกโรค จึงต้องการระบบน้ำประปาที่ดี ซึ่งเป็นช่วงที่รับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในญี่ปุ่น จึงเพิงพาการนำเข้าจากต่างประเทศ มร.คูโบตะ เลยให้ความสนใจที่จะผลิตขึ้นใช้เอง โดยมีปรัชญาในการประกอบธุรกิจ คือ “เราต้องทำให้ได้” และ “อย่ากลัวความล้มเหลว” จนประสบความสำเร็จเป็นโรงงานท่อน้ำแห่งแรกในญี่ปุ่น
ในปี1922 ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกทั้งเกษตรกรก็ประสบปัญหาภัยแล้งบริษัทฯ ได้ริเริ่มพัฒนาเครื่องยนต์ต้นกำเนิดกำลังเครื่องแรก (เพื่อช่วยสูบน้ำในการทำนา)
ในปี 1947 จึงได้พัฒนาสินค้ารถไถนาเดินตาม เพื่อแก้ปัญหาเรื่องอาหารขาดแคลนในประเทศญี่ปุ่นช่วงนั้น เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นให้ดีขึ้น จนปัจจุบันคูโบต้ากว่า 120 ประเทศทั่วโลก จึงได้ยึดถือ Brand Statement ที่ว่า For Earth For Life ที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ ในวาระครบรอบ 130 ปี ได้ขยายความรับผิดชอบทางสังคม หรือ CSR ให้สอดคล้องกับแนวคิด Sustainable Development Goals หรือ SDG’s ของสหประชาชาติ มุ่งสร้างการพัฒนาโลกอย่างยั่งยืน เพื่อตอบแทนสังคมใน 3 ด้าน ได้แก่ อาหาร น้ำ และสิ่งแวดล้อม
มร.ยูอิจิ คิตาโอะ กล่าวอีกว่า ในวาระครบรอบ 130 ปี ได้มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า (2030) ดังนี้ คือ1. มุ่งเน้นการสร้าง GMB (Global Major Brand) หรือการเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาด ด้วยการวิจัยและพัฒนา ทั้งผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพที่ตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้อย่างแท้จริง หลักการนี้ได้ถ่ายทอดสู่บริษัทคูโบต้าทั่วโลก เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อรักษาความเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าไว้วางใจต่อเนื่องมากที่สุด โดยคูโบต้าได้วางแผนระยะสั้น 5 ปี (Mid Term Plan) ให้สอดคล้องกับแนวทางที่ต้องการมุ่งไปถึงในปี 2030 ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ต่างๆ ที่สะสมมายาวนานกว่า 130 ปี ในการพัฒนาเป็นโซลูชั่นที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าคูโบต้าทั่วโลก
แทรกเตอร์ไร้คนขับ
2.ปัจจุบันทั่วโลกต่างก็เผชิญสิ่งที่เรียกว่า Game Change ในหลายๆ ธุรกิจของคูโบต้าก็ได้รับผลกระทบ เราจึงต้องทบทวนศักยภาพด้านการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องของ Digital Transformation เข้ามาใช้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อปรับเปลี่ยนจากการเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ไปเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้กับลูกค้า ดังที่ผู้ก่อตั้งคูโบต้า กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ของเราไม่ได้มีความหมายอะไรเลย หากไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม แม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม รวมถึงจะไม่มีการเติบโตใดๆ โดยปราศจากนวัตกรรม”
3.ขยายขอบเขตให้กว้างขึ้นในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการเกษตรกรรมอัจฉริยะจากคูโบต้า หรือ KSAS (KUBOTA Smart Agri System) และ ด้านการจัดการสาธารณูปโภคอัจฉริยะจากคูโบต้า หรือ KSIS (KUBOTA Smart Infrastructure System) โดยในปี 2019 คูโบต้าคอร์ปอเรชั่นได้ลงทุนก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ ในเมืองซาไก เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต มุ่งวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของ KUBOTA Innovation Center ในระดับโลก ยกตัวอย่าง การพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์บริบทที่เปลี่ยนไป เช่น แทรกเตอร์แห่งอนาคตไร้คนขับที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
แทรกเตอร์แห่งอนาคต
4.ยึดหลักการบริหารงาน “คูโบต้า เป็นหนึ่งเดียว” หรือ “One KUBOTA” คือการบริหารงานบุคคลแบบไร้พรมแดน และเชื่อว่าทุกคนเป็นคนสำคัญในองค์กร ตามแก่นความเชื่อที่ว่าพนักงานทุกคนในองค์กรต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ลูกค้าคาดหวังตามแนวคิด “อยู่เคียงข้างคุณ” “On Your Side” ตรงกับความต้องการของตลาดไว้ในผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดของเรา โดยเป็นการมองผ่านมุมมองของลูกค้า (Market-in) เพื่อพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่นที่ใช้ได้จริงจริงให้กับลูกค้า
“ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะนำพาคูโบต้า กรุ้ปทั่วโลกไปสู่อนาคต เปลี่ยนแปลงโลกแห่งนวัตกรรมสู่อนาคตของคูโบต้า เพื่อวางรากฐานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคเกษตรกรรม ให้หล่อเลี้ยงชีวิตความเป็นอยู่สู่สังคมที่ดีขึ้น เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจคูโบต้า กรุ้ป ตลอดทศวรรษหน้า ด้วยการรวมพลังของพนักงานคูโบต้ากว่า 40,000 ชีวิตทั่วโลก” ประธาน คูโบต้า กรุ้ป กล่าว