4 โรงงานไทยแลุย จีนไฟเขียวนำเข้ากากปาล์มฯ -กากรำข้าวเป็นครั้งแรก คาดโกบปี 120 ล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมวิชาการเกษตร ปลื้มผู้เชี่ยวชาญจีนไฟเขียว 4 โรงงานไทยผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ยอมเปิดตลาดกากปาล์มน้ำมันและกากรำข้าวให้ไทยเป็นครั้งแรก อีก 3 โรงงานเฮ ได้อนิสงส์ส่งออกโดยไม่ต้องผ่านการตรวจ ผู้ประกอบการยันพร้อมประเดิมออร์เดอร์แรกภายในปีนี้ คาดโกยรายได้เข้าประเทศกว่า 120 ล้านบาท

       นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญกองควบคุมการกักกันพืชและสัตว์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเดินทางมาตรวจประเมินโรงงานผลิตกากปาล์มน้ำมันและกากรำข้าวที่ประเทศไทย พร้อมกับยกร่างพิธีสารว่าด้วยการส่งออกสินค้าทั้ง 2 ชนิดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย ล่าสุดจีนได้แจ้งให้ทราบผลการตรวจประเมินโรงงานผลิตกากปาล์มน้ำมันและกากรำข้าวจำนวน 4 แห่งที่ได้ทำการตรวจประเมินในภาพรวมแล้วเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานดี โดยมีข้อที่ต้องปรับแก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่งผลให้ทั้ง 4 โรงงานผ่านการตรวจประเมินและได้รับการรับรองมาตรฐานสามารถที่จะส่งออกกากปาล์มน้ำมันและกากรำข้าวไปจีนได้

       ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรได้แจ้งจำนวนโรงงานผลิตกากปาล์มน้ำมันและกากรำข้าวของไทยที่มีความพร้อมให้จีนตรวจประเมินและให้การรับรองเพื่อผลิตสินค้าดังกล่าวส่งออกไปยังจีนจำนวนทั้งหมด 7 โรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จีนแจ้งความประสงค์ที่จะตรวจประเมินเพียง 4 โรงงานเท่านั้น โดยจะถือทั้ง 4 โรงงานเป็นตัวแทนการตรวจประเมินโรงงานทั้งหมด ดังนั้นหากทั้ง 4 โรงงานผ่านการตรวจประเมินและได้รับการรับรอง อีก 3 โรงงานที่เหลือจะไม่ต้องรับการตรวจประเมินอีกแต่ต้องส่งเอกสารตามที่จีนกำหนดให้จีนพิจารณา หากเป็นไปตามเงื่อนไขก็สามารถส่งออกได้ด้วยเช่นกัน

      อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ฝ่ายจีนยินดีที่จะผลักดันให้ส่งออกสินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้ได้ภายหลังที่สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนอนุญาตแล้ว โดยกรมวิชาการเกษตรจะจัดทำรายละเอียดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการส่งออกสินค้าทั้ง 2 ชนิดแจ้งให้ผู้ประกอบการการทราบเพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด โดยภายในปีนี้ผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมที่จะส่งออกกากาปาล์น้ำมันและกากรำข้าวได้ทันทีภายหลังจากที่จีนอนุญาตให้ส่งออก โดยตั้งเป้าการส่งออกสินค้าทั้ง 2 ชนิดไว้ขั้นต่ำชนิดละ 10,000 ตัน / เดือน โดยราคากากปาล์มน้ำมันมีราคากิโลกรัมละ 3.5 บาท ส่วนกากรำข้าวราคากิโลกรัมละ 8.6 บาท สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท

     ปัจจุบันอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ในประเทศจีนได้เติบโตอย่างรวดเร็ว กรมวิชาการเกษตรจึงได้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์ขอเปิดตลาดกากปาล์มน้ำมันและกากรำข้าวที่สกัดน้ำมันแล้วไปจีนเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนผสมการผลิตอาหารสัตว์เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา โดยหากไทยสามารถเปิดตลาดสินค้าทั้ง 2 ชนิดได้ถือเป็นการส่งออกวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มาจากพืชไปจีนเป็นครั้งแรกของประเทศไทย