ธ.ก.ส.จัดเต็มช่วยเกษตรกรเหยื่อ”โพดุล”เร่งด่วนให้กู้ 5 หมื่นไร้ดอกเบี้ย 6 เดือน ฟื้นฟูรายละ 5 แสน

  •  
  •  
  •  
  •  

ธ.ก.ส. เตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยจาก พายุโพดุล” ทั้งกรณีฉุกเฉินให้กู้รายละไม่เกิน 5 หมื่นปลอดดอกเบี้ย 6 เดือน ฟื้นฟูหลังประสบภัยรายละไม่เกิน 5 แสนผ่อนยาวถึง 15 ปี  พร้อมขยายเวลาชำระหนี้สิน  ระดมกำลังสาขาในพื้นที่จัดถุงยังชีพช่วยเหลือแล้วกว่า 20,000 ถุง  สนับสนุนศูนย์อพยพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น แจ้งเกษตรกรหากมีปัญหารีบติดต่อ  ธ.ก.ส. ในพื้นที่ได้ทันที

       นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดภัยพิบัติธรรมชาติจากพายุโซนร้อนโพดุลส่งผลให้เกิดฝนตกชุกหนาแน่นในหลายพื้นที่ ซึ่งปริมาณฝนตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มและลมกระโชกแรง ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับการเกษตร ตลอดจนทรัพย์สินที่อยู่อาศัยของลูกค้าและประชาชนทั่วไปนั้น ธ.ก.ส. มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของผู้ประสบภัย จึงได้กำหนดแนวทางพร้อมกำชับให้ธ.ก.ส. ในพื้นที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนี้

        กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน  ได้มอบหมายให้พนักงานในพื้นที่ ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจลูกค้าโดยนำเงินจากกองทุนบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยธรรมชาติและภัยพิบัติของธ.ก.ส. ไปจัดหาถุงยังชีพเพื่อนำไปมอบให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนที่เดือดร้อน  โดยเบื้องต้นได้ส่งถุงยังชีพช่วยเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพิจิตร  พิษณุโลก ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร นครพนม ไปแล้วกว่า 20,000 ถุงและเข้าไปสนับสนุนศูนย์อพยพหรือจุดรวมพลต่าง ๆ เช่น  จัดหาอาหาร น้ำดื่ม  บริการสุขาเคลื่อนที่  เต็นท์สนาม รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าเรือ  ค่าเช่ารถบรรทุก ค่าแรงงาน เป็นต้น    

          อย่างไรก็ตาม หลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง  จะเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังประสบภัยเช่น  การมอบเงินเพื่อสมทบทุนสร้างบ้านหลังใหม่ การซ่อมแซมทรัพย์สินของใช้จำเป็น การซ่อมแซมเครื่องจักรการเกษตรและค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่เกี่ยวเนื่องในการให้ความช่วยเหลือกรณีฟื้นฟูหลังประสบภัย

        สำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินที่มีอยู่กับ ธ.ก.ส. กรณีที่เกษตรกรได้รับความเสียหายด้านการผลิตและส่งผลกระทบต่อรายได้ธ.ก.ส.จะพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามความหนักเบาของผู้ประสบภัยทุกราย   และพิจารณาให้สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินบรรเทาความเดือดร้อน จำเป็นในครัวเรือนและป้องกันการก่อหนี้นอกระบบ ไม่เกินรายละ 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ระยะ 6 เดือนแรก และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติตามความจำเป็นแต่ไม่เกินรายละ  500,000 บาท  คิดอัตราดอกเบี้ย MRR -2 หรือเท่ากับร้อยละ  4.875 ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 15 ปี

        ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้เป็นค่าลงทุนในการสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย หรือลงทุนซ่อมแซมโรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตรหรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพการเกษตรที่ได้รับความเสียหายดังนั้น หากเกษตรกรผู้ประสบความเดือดร้อนสามารถติดต่อ ธ.ก.ส.ในพื้นที่เพื่อขอรับการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ได้ทันทีหรือที่ Call Center 02-5550555 “เกษตรกรที่มีภาระหนี้สินกับ ธ.ก.ส.ขออย่ากังวลใจ ธ.ก.ส. พร้อมเข้าไปดูแลตามมาตรการการช่วยเหลือที่กำหนดไว้   รวมถึงพร้อมที่จะดำเนินการอื่น ๆ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป” นายอภิรมย์ กล่าว