ที่ประชุม JAWG ฮังการีเห็นชอบที่จะร่วมดำเนินโครงการใหม่กับไทย 4 โครงการ “แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม-การเพิ่มผลิตผลทางปศุสัตว์-พัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม -เสริมสร้างขีดความสามารถการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับสารพิษตกค้างและสารตกค้างในยาสัตว์ พร้อมให้ปัดฝุ่น 3 โครงการ “ด้านปศุสัตว์-พัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่-การบริหารจัดการดินเค็ม ที่เคยมีมติเห็นชอบมาแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ
นายพิศาล พงศาพิชณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลัง เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย ในการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร ฮังการี-ไทย ครั้งที่ 7 (7th Meeting of the Hungary – Thailand Joint Agricultural Working Group: 7th JAWG) โดยมีนายลอโยช บอกนาร์ Deputy State Secretariat for Food Chain Control กระทรวงเกษตรฮังการี เป็นประธานร่วมฝ่ายฮังการี และมีผู้แทนจากกรมชลประทาน กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ อัครราชทูต (ฝ่ายการเกษตร) ประจำสหภาพยุโรป และอัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ เข้าร่วมด้วยว่า การประชุม JAWG ฮังการี-ไทย ครั้งที่ 7 ฝ่ายฮังการีได้เห็นชอบที่จะร่วมดำเนินโครงการใหม่กับฝ่ายไทย รวม 4 โครงการ ได้แก่
1.โครงการแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อที่ 13 (SDG 13) ในเขตพื้นที่ชลประทานเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2.โครงการเพิ่มผลิตผลทางปศุสัตว์ โดยการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางระบบสืบพันธุ์ 3.โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และ 4.โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถการประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับสารพิษตกค้างและสารตกค้างในยาสัตว์
ขณะที่ฝ่ายไทยยินดีดำเนินโครงการใหม่ร่วมกับฝ่ายฮังการี ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และความร่วมมือด้านปศุสัตว์ ในที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินการโครงการที่เคยมีมติเห็นชอบ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ รวม 3 โครงการ โดยเป็นโครงการด้านปศุสัตว์ ด้านการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ และด้านการบริหารจัดการดินเค็ม รวมโครงการที่จะดำเนินการภายใต้ความร่วมมือ ทั้งสิ้น 10 โครงการ
ต่อมาคณะผู้แทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่สถาบันวิจัยด้านการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ โภชนาการ และสัตวศาสตร์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2439 โดยสถาบันดังกล่าวเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฮังการี มีหน้าที่รับผิดชอบงานวิจัย การนำงานวิจัยมาปรับใช้ รวมทั้งพัฒนากิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธุศาสตร์ การปรับปรุงพันธุ์สัตว์ โภชนาการสัตว์ การบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีผลิตอาหารสัตว์สำหรับโคเนื้อ โคนม สุกร แกะ แพะ ม้า และกระบือ โดยมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย สถาบันปรับปรุงพันธุ์สัตว์ และภาคอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ฮังการีผลิตสุกรคุณภาพพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับจากประเทศในสหภาพยุโรป ได้แก่ สุกรพันธุ์มังกาลิซ่า และไม่อนุญาตให้ผลิตสินค้าเกษตร GMO ซึ่งไทยและฮังการีได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร เมื่อปี 2543 โดยทั้งสองฝ่ายได้จัดการประชุม JAWG ภายใต้กรอบความตกลงดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง และมีโครงการความร่วมมือที่เห็นชอบร่วมกันกว่า 20 โครงการ