อกอช.วอนอียูจัดทำกฎระเบียบจำแนกสารกำจัดศัตรูพืชหวั่นถูกกีดกันทางการค้าอีก

  •  
  •  
  •  
  •  

มกอช.ใช้เวทีระดับโลกในที่ประชุมคณะกรรมการด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ครั้งที่ 74 เรียกร้องให้อียูจัดทำกฎระเบียบในการจำแนกสารกำจัดศัตรูพืชที่เข้าข่ายสารขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ ให้สอดคล้องกับหลักการประเมินความเสี่ยงภายใต้ความตกลงว่าด้วยการบังคับใช้มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและมาตรฐานสากล หวังป้องกันไม่ให้มีการนำมาตรการไปใช้ในการกีดกันทางการค้าโดยไม่จำเป็นอีก

   

          เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2562 นางสาวจูอะดี พงษ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พร้อมคณะผู้แทนจาก มกอช. และผู้แทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญา เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (Committee on Sanitary and Phytosanitary Measures) ครั้งที่ 74 ในระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2562 ณ องค์การการค้าโลก นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบ และสถานการณ์ความปลอดภัยอาหารจากประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) รวมทั้งหารือข้อกังวลทางการค้าที่ประเทศสมาชิกมีต่อกฎระเบียบของประเทศสมาชิกอื่น

        นางสาวจูอะดี กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก ได้ใช้โอกาสนี้ร่วมกับประเทศสมาชิก WTO กว่า 20 ประเทศ เรียกร้องให้สหภาพยุโรป(อียู)จัดทำกฎระเบียบในการจำแนกสารกำจัดศัตรูพืชที่เข้าข่ายสารขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ ให้สอดคล้องกับหลักการประเมินความเสี่ยงภายใต้ความตกลงว่าด้วยการบังคับใช้มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการนำมาตรการไปใช้ในการกีดกันทางการค้าโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรวมทั้งไทยในอนาคต

 

      นอกจากนี้ ผู้แทนประเทศไทย ยังได้หารือทวิภาคีกับประเทศคู่ค้า เพื่อผลักดันการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและแก้ไขปัญหาด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย เช่น ได้หารือกับไต้หวันเพื่อเร่งรัดการเปิดตลาดมังคุดให้แก่ไทย ขอให้รัสเซียเร่งรัดการขึ้นทะเบียนโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำส่งออกของไทยเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำจากไทยไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้นถึงประมาณปีละ 600 ล้านบาท และขอให้เกาหลีใต้เร่งรัดกระบวนการพิจารณาเปิดตลาดมะม่วงมหาชนกให้แก่ไทยด้วย