4 กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมียนมา
เมียนมากับความพยายามดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างชาติ และโอกาสที่สำคัญสำหรับคนไทย
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เมียนมามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายด้านนับตั้งแต่รัฐบาลพลเรือนขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2559 โดยในด้านเศรษฐกิจ มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุน อาทิ นโยบายเศรษฐกิจ 12 ประการ ที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและทั่วถึง รวมทั้งกฎหมายส่งเสริมการลงทุนใหม่ 2 ฉบับ ได้แก่
- กฎหมายการลงทุนเมียนมา (Myanmar Investment Law) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2560 โดยนักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแตกต่างกันไปตามระดับการพัฒนาของพื้นที่
- กฎหมายบริษัทเมียนมา (Myanmar Companies Law) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2561 ซึ่งอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นในบริษัทท้องถิ่นได้ร้อยละ 35 และอำนวยความสะดวกการจัดตั้งบริษัทโดยจัดทำระบบจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Myanmar Companies Online (MyCo) เพื่อส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาบริษัทท้องถิ่น
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพัฒนาการในเชิงบวกดังกล่าวมีส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุนโดยปัจจุบัน การลงทุนของต่างชาติในเมียนมามีมูลค่าถึง 76.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในสาขาเชื้อเพลิง พลังงาน ภาคการผลิต การขนส่งและโทรคมนาคม โดยชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด ได้แก่ จีน สิงคโปร์ และไทยตามลำดับ
นอกจากนี้ สัดส่วนการค้าต่อ GDP ของเมียนมาก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) จากสหภาพยุโรปมาตั้งแต่ปี 2556 และจากสหรัฐฯ ในปี 2559 รวมทั้งการที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกเพื่อลดการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศ มีการอนุญาตให้บริษัทต่างชาติและบริษัทร่วมทุนระหว่างชาวเมียนมากับชาวต่างชาติสามารถดำเนินการค้าขายสินค้าที่ผลิตในเมียนมา หรือนำเข้าจากต่างประเทศ จากเดิมที่อนุญาตให้บริษัทต่างชาติดำเนินการค้าขายสินค้าเพียงไม่กี่รายการ
จากพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นดังกล่าว รัฐบาลเมียนมาจึงเตรียมที่จะให้ความสำคัญกับ 4 ประเด็นหลัก เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย
- การปฏิรูปเศรษฐกิจ ผ่านการริเริ่มแผนการพัฒนาเมียนมาอย่างยั่งยืน (Myanmar Sustainable Development Plan) รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลขึ้นในปี 2561
- การลงทุน เมียนมา ตั้งเป้าหมายส่งเสริมการลงทุนที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเอื้อต่อการลงทุน โดยการส่งเสริมการลงทุนในสาขาโครงสร้างพื้นฐาน ภาคเกษตร ปศุสัตว์ การประมง การศึกษา สาธารณสุข การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ การผลิตสินค้าในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า อุตสาหกรรมการส่งออก และการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมใหม่
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลเมียนมาร่วมกับ Asian Development Bank และ Japan International Cooperation Agency จะดำเนินการปรับปรุงคุณภาพทางหลวงเพื่อเชื่อมโยงพื้นที่เมืองและชนบท พัฒนาระบบไฟฟ้า โครงการพลังงานน้ำและโครงการแสงอาทิตย์ เพิ่มจำนวนสายส่งด้านพลังงานเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงไฟฟ้าภายในปี 2573 รวมถึงเตรียมพร้อมการเปิดประมูลการสำรวจก๊าซบนชายฝั่งและนอกชายฝั่งรอบใหม่ภายในสิ้นปี 2561
- การส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รัฐบาลได้เพิ่มจำนวนโรงแรม ยกเว้นการตรวจลงตราให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ กำหนดมาตรการออก Visa on Arrival ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับระบบขนส่งคมนาคมระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตามทิศทางการดำเนินงานของรัฐบาลเมียนมาต่อจากนี้จึงน่าจะเป็นไปในแนวทางที่รัฐบาลเร่งผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยแม้ว่าเมียนมายังคงต้องเผชิญประเด็นท้าทายต่าง ๆ เช่น การปฏิรูปเป็นไปอย่างล่าช้า ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ ปัญหาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงข้อกังวลในเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่เมียนมาก็ยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในประเทศ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเมียนมาเติบโตได้ถึงร้อยละ 6-7 ภายในสองปีนี้ จึงถือว่าเมียนมามีศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นหลักที่คาดว่ารัฐบาลเมียนมาจะให้ความสำคัญต่อไปในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่มาข้อมูล : bangkokbanksme.com