นายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.เวียดนามคอร์ปอเรชั่นเข้าร่วมพิธีมอบเหรียญอิสริยาภรณ์แรงงาน ชั้น3 ซึ่งเป็นรางวัลที่ประธานาธิบดีเวียดนามมอบให้บริษัทฯ เพื่อยกย่องผลงานการมีส่วนร่วมพัฒนาประชาชนชาวเวียดนามให้ได้รับความรู้ ได้รับอาชีพ และเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศเวียดนาม ตอกย้ำความสำเร็จของปรัชญาดำเนินธุรกิจ 3ประโยชน์ นั่นคือ ธุรกิจที่ทำต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศที่ไปลงทุน ประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศนั้น และประโยชน์ต่อบริษัท รางวัลนี้สร้างพลังและกำลังใจให้แก่ทุกคนในบริษัทเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันได้จัดตั้ง “กองทุนซี.พี.เวียดนามเพื่อการกุศล” (CPV’s Donation Fund) เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืนในหลายๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการบริจาคโลหิตที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2009โดยมียอดรับบริจาคโลหิตรวมทั้งสิ้นกว่า 200,000ยูนิต (ประมาณ 62ล้านซีซี) เป็นที่ยอมรับและชื่นชมจากรัฐบาลและประชาชนนอกจากนี้ยังมีโครงการหน่วยแพทย์อาสาและโครงการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสต่างๆ อีกหลายโครงการ
นาง เล เหยิด ถุ่ยรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ประธานกองทุน ซี.พี.เวียดนาม เพื่อการกุศล กล่าวว่า เดิมทีชาวเวียดนามมีความเชื่อที่จะไม่ให้เลือดของตนแก่คนนอกครอบครัว แต่โครงการบริจาคโลหิตที่ซี.พี.เวียดนามเป็นผู้รณรงค์ส่งเสริมนั้นสามารถเปลี่ยนความเชื่อดังกล่าว กระทั่งสร้างประโยชน์แก่วงการสาธารณสุขของเวียดนามเป็นอย่างมาก
พัฒนาเศรษฐกิจ…ยกระดับคุณภาพชีวิต
ซี.พี.เวียดนามมีส่วนในการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในระยะ 25ปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาภาคเกษตรอุตสาหกรรมอันทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพตลอดจนองค์ความรู้ต่างๆเข้ามาถ่ายทอดให้แก่เกษตรกรส่งผลให้เกษตรกรชาวเวียดนามมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถ ประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน พร้อมๆกับการที่ประชาชนชาวเวียดนามมีปริมาณอาหารโปรตีนรับประทานได้อย่างเพียงพอ ตลอดจนสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไปจำหน่ายยังนานาประเทศ ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม
“นอกเหนือจากการทำฟาร์ม เรายังริเริ่มขยายระบบการจัดจำหน่ายเนื้อสุกรในรูปแบบของ “ร้านสุกร CP” (CP Pork shop) กระทั่งปัจจุบันสามารถขยายร้านได้แล้วถึง 546สาขา ซึ่งเป็นการจัดจำหน่ายโดยผู้ประกอบการรายย่อยทั้ง 100%เพื่อการสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนชาวเวียดนามตลอดจนเป็นการยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัยและการจัดจำหน่ายเนื้อสัตว์อย่างถูกสุขลักษณะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค” นายจิรวิทย์กล่าวและว่า
สำหรับธุรกิจไก่เนื้อ ในเร็วนี้บริษัทจะเปิดโครงการเลี้ยงไก่แปรรูปครบวงจรเพื่อการส่งออก(เฟสแรก)เพื่อใช้เวียดนามเป็นฐานในการส่งออกไก่แปรรูปไปยังประเทศต่างๆ โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีกำลังการผลิต 1ล้านตัว/สัปดาห์ ภายใต้มาตรฐานการผลิตอาหารปลอดภัยในระดับสากล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตรวจสอบย้อนกลับได้ ด้าน นายอดิศักดิ์ ต่อสกุล รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจสัตว์น้ำ กล่าวเสริมว่า ในปีที่ผ่านมา ซี.พี.เวียดนาม ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปสัตว์น้ำ ประเภทกุ้งและปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ไปยังประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย ฮ่องกง จีน และยุโรป ในปริมาณถึง 20,000 ตัน
ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งด้วยระบบ “C.P. Combined Model” โดยนำหลักการเลี้ยงกุ้งที่ดีและถูกต้องตามหลักวิชาการทุกอย่างมารวมกันในสเกลเล็กเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของกิจการฟาร์มเลี้ยงกุ้งได้ ประกอบกับทางรัฐบาลเวียดนามให้การสนับสนุน ส่งผลให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ จึงทำให้ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเวียดนามไม่จำเป็นต้องเป็นเกษตรกรรายใหญ่ อุตสาหกรรมกุ้งของเวียดนามจึงประสบความสำเร็จ มีผลผลิตที่มีคุณภาพในปริมาณที่เพิ่มขึ้น และส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น
“กลุ่มอาหารแปรรูปที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเวียดนามคือ ไส้กรอก ซึ่งเรามีส่วนแบ่งตลาดถึง 20% และในปีหน้าจะเน้นส่งผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานสู่ตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอก ซูชิ ติ่มซำ ไข่แปรรูปพร้อมทาน และอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานอื่นๆโดยตั้งเป้าจะขยายส่วนแบ่งตลาดอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้นส่วนห้าดาวก็เป็นธุรกิจอาหารสำเร็จรูปที่เติบโตด้วยดีในเวียดนาม โดยบริษัทสนับสนุนให้ชาวเวียดนามมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจ ให้องค์ความรู้ด้านการจัดการ สนับสนุนการขายทุกอย่าง กระทั่งปัจจุบัน มีชาวเวียดนามเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจห้าดาว ถึง 500ครอบครัว และจะเพิ่มเป็น 600ครอบครัวในปีหน้า” นายสุพัฒน์กล่าวทิ้งท้าย
นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น เป็นกิจการหนึ่งในกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ (Oversea Business)ที่ตลอด 25 ปีมีการสร้างคน สร้างทีมงานที่ดี และมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็นลำดับนับเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนของซีพีเอฟ รวมถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เสริมความแข็งแกร่งของพันธมิตรและการดำเนินโครงการเพื่อสังคม จนนำไปสู่การยอมรับจากรัฐบาลและประชาชนชาวเวียดนามกระทั่งได้รับเหรียญเกียรติคุณแห่งชาติในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน