เครือเจริญโภคภัณฑ์เดินหน้าความยั่งยืนสู่กลุ่มเกษตรกรภายใต้โครงการ Contract Farming ครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการทำประกันภัยให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการ ด้วยการจับมือกับบริษัทประกันภัยทำกรมธรรม์คุ้มครองเกือบ 10,000 ล้านบาทแก่เกษตรกรกว่า 5,000 ราย
เมื่อเร็วๆ นี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย ดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้บริหาร สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมนางสาวสุภาพร ฉัตรฉายแสง รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สำนักประกันภัย เครือฯ ร่วมกับ นายจีรวัฒน์ พยาฆระสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ได้เดินทางไปมอบค่าสินไหมทดแทนแก่เกษตรกร Contract Farming ตามกรมธรรม์2561/2562 ให้แก่นางไสว ฝอยทอง เกษตรกร Contract Farming ในโครงการส่งเสริมไก่กระทงแม่สอด จ.ตาก ของบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตามนโยบายด้านความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ให้มีการทำประกันภัยแก่เกษตรกรในโครงการ Contract Farming เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่เกษตรกร
ดร.อธิป อัศวานันท์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยตามแนวคิดของเครือฯที่ว่า “เกษตรกรคือคู่ชีวิต” สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งได้กําหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ปี 2020 ด้านคุณค่าทางสังคม ด้วยการส่งเสริมอาชีพและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ประกอบการ
รายย่อย จึงมีนโยบายสนับสนุนให้บริษัทในเครือฯทำประกันภัยให้กับเกษตรกร ในโครงการเกษตรพันธสัญญา หรือ Contract Farming เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาชีพแก่เกษตรกร ซึ่งกล่าวได้ว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้ประกอบการรายแรกในระบบ Contract Farming ของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญเรื่องการบริหารความเสี่ยงแทนเกษตรกรรายย่อยทั้งในประเภทประกันรายได้ หรือแบบฝากเลี้ยง และประเภทประกันราคา โดยบริษัทมีการทำประกันภัยให้กับเกษตรกรคู่สัญญาทั้งที่กฎหมายไม่ได้บังคับและเกษตรกรไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยปัจจุบัน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ได้เดินหน้าตามนโยบายประกันภัยให้แก่เกษตรกร Contract Farming ได้ทำประกันภัยแก่เกษตรกรรายย่อยทั้งหมดที่อยู่ในโครงการ Contract Farming ของซีพีเอฟ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวนเกือบ 6,000 ราย
นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ดำเนินการยกระดับมาตรฐานของสัญญา Contract Farming ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการประเมินจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ว่าสัญญา Contract Farming ของเครือฯมีความเป็นธรรมและเป็นสากล โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้นำไปเป็นตัวอย่างให้หลาย ๆ ประเทศได้ศึกษารูปแบบสัญญาที่เป็นธรรมอีกด้วย
ด้าน นางสาวสุภาพร ฉัตรฉายแสง รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สำนักประกันภัย เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือฯได้สนองตอบนโยบายดำเนินการทำประกันภัยให้เกษตรกร Contract Farming ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 ก.ย. 2560 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนเกษตรกร Contract Farming รายย่อยที่ได้รับคุ้มครอง 5,387 ราย แยกเป็นเกษตรกร แบบฝากเลี้ยงหรือประกันรายได้ 5,081 ราย ประกอบด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่กระทง ไก่พื้นเมือง ไก่รุ่นไข่ เป็ดเนื้อ เป็ดไข่ สุกรขุน สุกรพันธ์ และ แบบประกันราคาอีก 306 ราย ได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ รวมวงเงินคุ้มครองรวมทั้งสิ้นเกือบ 10,000 ล้านบาท
สำหรับการทำประกันภัยให้แก่เกษตรกร Contract Farming ของซีพีเอฟ เป็นการประกันภัยที่มีความคุ้มครอง แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การประกันภัยทรัพย์สิน ได้แก่ อาคารโรงเรือน อุปกรณ์การเลี้ยง ระบบสาธารณูปโภค โดยบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด(มหาชน) เป็นผู้รับประกัน และ2.การประกันภัยสต๊อกสิ่งมีชีวิต ครอบคลุมความเสี่ยงภัยทุกชนิดจากสาเหตุภายนอก รวมกรณีที่ส่งผลให้สัตว์ขาดอากาศหายใจ ยกเว้นสัตว์ตายจากโรค โดยบริษัท อลิอันซ์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกัน
ในส่วนของเกษตรกร นางสุวรินทร์ ฉิมสุด บุตรสาว ของ นางไสว ฝอยทอง เกษตรกร Contract Farming เจ้าของไสวฟาร์ม ซึ่งเป็นเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่กระทง แม่สอด จ.ตาก ของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ไสวฟาร์มเข้าร่วมเป็นเกษตร Contract Farming ในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่กระทง แม่สอด จ.ตาก มาตั้งแต่ปี 2550 โดยเลี้ยงไก่กระทง แบบฝากเลี้ยง จำนวน 12,000 ตัว จำนวน 1 โรงเรือน ซึ่งซีพีเอฟได้ทำประกันภัยให้ฟาร์มของตนเองตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้เกิดภัยธรรมชาติทำให้ฟาร์มไก่กระทงของตนเองเกิดความเสียหายแก่โรงเรือนและอุปกรณ์เลี้ยงไก่ ซึ่งปรากฏว่าได้รับความคุ้มครองจากบมจ.กรุงเทพประกันภัย โดยได้รับสินไหมทดแทนเต็มจำนวน นำมาซ่อมแซมโครงสร้างของโรงเรือน รู้สึกดีใจมาก เป็นเพราะซีพีเอฟได้ทำประกันภัยให้ทำให้ตนไม่ต้องเดือดร้อนกับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้โครงการ Contract Farming ทำให้มีรายได้มั่นคง สามารถยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัวได้