ไฟเขียวหน่วยงานรัฐลงทีโออาร์ใช้ยางได้ไม่ถือผิดสเปค
รัฐบาลไฟเขียว ให้หน่วยงานของรัฐสามารถที่จะกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมกรณีที่จะใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบลงไปใน TOR ได้ ไม่ถือเป็นการล็อกสเปค เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตราคายาง แนะผู้รับงานประมูลหากต้องใช้ยาง สามารถซื้อจาก กยท. หรือเกษตรกร รวมถึงจากองค์กร และหรือบริษัทเอกชนได้ แต่ต้องเป็นยางใหม่เท่านั้น
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯนนี้ ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 27 ก.พ. 61 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายางพาราว่า รัฐบาลสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐใช้ยางเพิ่มขึ้น แต่พบว่าหน่วยงานต่าง ๆ มีการขอใช้ยางน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งเนื่องจากติดปัญหาเรื่องระเบียบหลักเกณฑ์ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรมบัญชีกลาง
ดังนั้นนายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายวิษณุ ได้นำข้อสรุปของผลการหารือดังกล่าวรายงานต่อที่ประชุมครม.รับทราบว่า จากนี้ไปหน่วยงานของรัฐสามารถที่จะกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมลงไปใน TOR ได้ เช่น หากมีบริษัทใดที่จะมารับงานประมูลของรัฐไปให้สามารถที่จะซื้อยางจากการยางแห่งประเทศไทยได้ ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยจะไปซื้อยางใหม่จากเกษตรกรโดยตรง รวมทั้งอนุญาตให้ซื้อยางจากองค์กร หรือบริษัทใดก็ได้ แต่ต้องเป็นการซื้อยางใหม่จากเกษตรกรไม่ใช่ยางเก่าในสต็อก และสามารถที่จะกำหนดไว้ใน TOR ได้โดยไม่ถือเป็นการล็อกสเปคแต่อย่างใด เพื่อสามารถพยุงและดูแลราคายางให้กับเกษตรกรชาวสวนยางให้ได้ราคาที่เหมาะสม
[adrotate banner=”3″]
สำหรับยางเก่าที่อยู่ในสต็อกก่อนหน้านี้ จำนวน 300,000 ตัน นั้น ปัจจุบันจากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้มีการบริหารจัดการยางดังกล่าวทำให้ขณะนี้มียางเหลืออยู่ในสต็อก ประมาณ 140,000 กว่าตัน ส่วนจะนำยางที่เหลือมาใช้เมื่อใดนั้น จะพิจารณาตามช่วงเวลาที่เหมาะสมโดยจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคายางใหม่ ซึ่งขณะนี้ให้เร่งการดำเนินการในส่วนของยางใหม่ก่อน
ที่มา: กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล