ประภัตร โพธสุธน
“ประภัตร” นำทีมกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมสั่งการเร่งหาวิธีช่วยเหลือเกษตรกรที่ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรไม่ทัน ทำให้หลุดหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉน พ.ศ. 2564 ยืนยันทุกหน่วยงานในสังกัด ะหาวิธีการช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ที่เพาะปลูกข้าว ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ไม่สามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ทัน ก่อนเกิดอุทกภัย ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวได้ทำการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว แต่ไม่ได้ปรับปรุงทะเบียน หรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรไม่ทัน
ทั้งนี้ตามระเบียบฯ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยสามารถขึ้นได้ตลอด แต่การแจ้งปรับปรุงทะเบียน สามารถทำได้ ตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกแล้ว (หว่าน) 15 – 60 วัน ซึ่งหากไม่ได้แจ้งปรับปรุงไว้ ก็ไม่สามารถรับการให้ความช่วยเหลือได้ แต่ปัญหาของจังหวัดสุพรรณบุรี คือ หลังเกษตรกรเริ่มเพาะปลูกได้ไม่นาน ยังไม่ได้ปรับปรุงทะเบียน เกิดอุทกภัยขึ้นก่อน และทางจังหวัดได้ดำเนินการประกาศเขตภัยพิบัติไปแล้ว ทำให้พื้นที่สุพรรณบุรีทั้ง 10 อำเภอ มีเกษตรกรที่ไม่ได้ปรับปรุงทะเบียนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากรับฟังปัญหาและหารือในเบื้องต้นแล้วจึงได้สั่งการให้ นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าร่วมประชุมกับกรมส่งเสริมการเกษตร และตัวแทนเกษตรกรจากจังหวัดลพบุรี ซึ่งประสบปัญหาในลักษณะเดียวกัน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บ่ายวันนี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้ได้ข้อสรุป และเร่งให้การช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกรโดยเร็ว
นายประภัคร กล่าวอีกว่า จังหวัดสุพรรณบุรีทั้ง 10 อำเภอ ประสบปัญหาอุทกภัย นาข้าวได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉน พ.ศ. 2564 มีข้อหนึ่งที่ระเบียบเขียนไว้ว่า ให้ดำเนินการช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนแล้ว ทำให้เกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรีจำนวนมาก ไม่สามารถเข้าตามกฏเกณฑ์ได้ และลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นหลายจังหวัด อาทิ ลพบุรี อ่างทอง และอีกหลายจังหวัด
ดังนั้น จึงมาเปิดประชุม รับฟังปัญหาวันนี้ที่สุพรรณบุรี เพื่อลดภาระของเกษตรกร ไม่ต้องเดินทางไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร จัดการประชุม เรื่องการเยียวยาที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ว่าจะมาสารถแก้ไข หรือหาวิธีช่วยเหลือเกษตรกรให้กับมาเข้าเกณฑ์สำหรับรับการเยียวยาได้อย่างไร จึงขอให้รอผลการประชุมของกรมส่งเสริมการเกษตรก่อน
“ผมมั่นใจว่าทุกส่วนราชการ เข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ขอให้อุ่นใจว่ากระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ทุกหน่วยงานในสังกัด จะทำ จะหาวิธีอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ” นายประภัตร กล่าว