กรมพัฒนาที่ดิน เดินหน้าเชิงรุกป้องกันหมอกควันไฟ และpm2.5 เปิดโครงการส่งเสริมการไถกลบและการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เผยตัวเลขจะให้เกษตรกรได้ปุ๋ยเพิ่มมูลค่าประมาณไร่ละ 900 บาท และจะสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ พร้อมสนับสนุนการทำปุ๋ยหมักคุณภาพสูง สูตรพระราชทานด้วยการใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 หวังกระตุ้นให้เกษตรกรนำใช้ในพื้นที่ปลูกข้าว ข้าวโพด และอ้อย มีเป้าหมาย 100,000 ไร่
นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ปัญหาหมอกและควันจากการเกิดไฟป่าและการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรก่อให้เกิดผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน ดินเสื่อมโทรม รวมทั้งยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นปัญหาซ้ำซาก ซึ่งจะเห็นได้จากสถิติในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 มีพื้นที่เผาไหม้ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งสิ้น 9,483 จุด มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือ PM 10 ในอากาศเกินค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศ ซึ่งเกิดจากการเผาตอซังและเศษวัสดุในพื้นที่การเกษตรเพื่อเตรียมแปลงปลูกพืชในฤดูถัดไป ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศของโลกส่งผลต่อการเกิดภาวะโลกร้อน
เบญจพร ชาครานนท์
ดังนั้นทางกรมพัฒนาที่ดิน จึงได้จัดทำ “โครงการส่งเสริมการไถกลบและการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดปัญหาหมอกและควันไฟ” ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 – เดือนกันยายน 2564 เพื่อบรรเทาและแก้ปัญหาเร่งด่วนที่จะเกิดขึ้น โดยการส่งเสริมการไถกลบเศษวัสดุแก่เกษตรกรถ่ายทอดองค์ความรู้การไม่เผาในพื้นที่ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนลดการเผาเศษใบไม้ เศษหญ้าวัชพืช ไม่จุดไฟเผาป่า สร้างแรงจูงใจในการทำปุ๋ยหมักสูตรพระราชทานให้เกษตรกรไว้ใช้เอง โดยการนำเศษวัสดุจากพื้นที่การเกษตร เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด เป็นต้น มาผลิตปุ๋ยหมักซึ่งจะลดปัญหาการเผาเศษวัสดุได้ทางหนึ่ง
นางสาวเบญจพร กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 2564 กรมพัฒนาที่ดินดำเนินการประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก คือกิจกรรมการไถกลบพื้นที่ประมาณ 60,000 ไร่ และการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ประมาณ3,500 ตัน ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง และตาก ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องและตำบลต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงผลของมาตรการในการไถกลบเศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อลดและแก้ปัญหาหมอกควัน และรักษาความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรดิน รักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง
การดำเนินงานโครงการไถกลบและการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อป้องกันหมอกและควันไฟจะแนะนำให้เกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ให้ความร่วมมือในการใช้วิธีไถกลบตอซังแทนการเผาทำลายทิ้ง นำเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นามาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงบำรุงดิน ซึ่งการไถกลบตอซังข้าว ข้าวโพด ซังอ้อย และตอซังพืชต่างๆ ในพื้นที่ 1 ไร่ จะเป็นการเพิ่มธาตุอาหารลงดิน ได้แก่ ธาตุไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) คิดเป็น มูลค่าประมาณ 900 บาท/ไร่ จะทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้
“กรมพัฒนาที่ดิน สนับสนุนเกษตรกรทำปุ๋ยหมักคุณภาพสูง สูตรพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกษตรกรนำใช้ในพื้นที่ปลูกข้าว ข้าวโพด และอ้อย พื้นที่เป้าหมาย 100,000 ไร่ ทั้งนี้เพื่อให้มีความรู้ความสามารถที่จะบริหารจัดการเศษวัสดุตามหลักวิชาการในพื้นที่ของตนเอง และให้ปรับเปลี่ยนความคิดตลอดจนวิธีการทำเกษตรกรรมจากเดิมที่เป็นการเผาทำลายทิ้ง ให้เป็นการใช้วิธีไถกลบแทน” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว