นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ปีนี้กรมส่งเสริมการเกษตรสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการรณรงค์การผลิตลำไยคุณภาพ เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิต ยกระดับคุณภาพลไยทางภาคเหนือ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการตัดแต่งช่อผล ตัดต้นเตี้ยมาช่วยในการผลิตในโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (ลำไย) จำนวน 53 แปลง
ดังนั้น จึงส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพเพิ่มขึ้น เป็นเกรด AA และ A คาดว่าจะมีผลผลิตลำไยคุณภาพออกมาประมาณ 27,000 ตัน และมีบางส่วนเป็นลำไยเกรด AAA ส่งขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น สยามพารากอน นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นำผลผลิตทางการเกษตรเข้าสู่ระบบตลาดออนไลน์ โดยผลผลิตลำไยแปลงใหญ่ ในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และน่าน จะเป็นจังหวัดนำร่องในการค้าขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ด้วยระบบ E-Market ผ่าน Thailandpostmart.com สอดคล้องตามมติคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ หรือ Fruit Board ปี 2561 ที่วางแผนบริหารจัดการคุณภาพและปริมาณผลผลิตลำไย โดยเน้นกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต
สำหรับลำไย เป็นไม้ผลเศรษฐกิจ มีแหล่งผลิตสำคัญทั้งในภาคเหนือและภาคตะวันออก คาดการณ์ว่าผลผลิตลำไยภาคเหนือปีนี้จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดรวม 650,000 ตัน จะออกมากในเดือนสิงหาคม ร้อยละ 36 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ประมาณร้อยละ 15 เนื่องจากมีการส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนมาผลิตลำไยนอกฤดูกาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในสัดส่วน นอกฤดู 60 ต่อในฤดู 40 ทำให้ผลผลิตในฤดูลดลง
ซึ่งการบริโภคผลสดภายในประเทศ ประมาณ 28,084 ตัน คิดเป็นร้อยละ 7.36 ด้วยวิธีกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผู้ประกอบการ Modern Trade วิสาหกิจชุมชน การกระจายผ่านเครือข่ายสหกรณ์การเกษตร เป็นต้น เพื่อการส่งออก ประมาณ 82,544 ตัน คิดเป็นร้อยละ 21.64 และผลิตภัณฑ์แปรรูป คิดเป็นร้อยละ 71 อาทิ การแปรรูปอบแห้งทั้งเปลือก แปรรูปอบแห้งเนื้อสีทอง ลำไยกระป๋อง น้ำเลำไยสกัดเข้มข้น
เน้นกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตและเห็นชอบให้จังหวัด พัฒนาคุณภาพผลผลิตภายใต้โครงการรณรงค์การผลิตลำไยคุณภาพ โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อทำการตัดแต่งกิ่ง ตัดต้นเตี้ย ซึ่งจะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ ขายได้ในราคาดี