“พาณิชย์” MOU ร่วมสปป.ลาว ส่งออกผลไม้ไทย คาดโต 3,000 ล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  

นางสาวสุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ทางกรมการค้าภายในได้นำคณะเยี่ยมชมตลาดบ้านนาแฮ ซึ่งเป็นตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในนครหลวง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อหาช่องทางขยายการค้าระหว่างประเทศไทยกับสปป.ลาว ให้เติบโตมากขึ้น

ทั้งนี้ หวังให้ผู้ประกอบการชาวสวนผลไม้จากประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการทำผลไม้คุณภาพได้นำส่งผลไม้มาขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนาแฮ และได้มีการร่วมกันทำ MOU ในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นให้คนไทยกับคน สปป.ลาวได้มาค้าขายกัน ในอนาคตอาจจะมีตัวแทนโดยนำผลไม้จากประเทศไทยมาขายในตลาด โดยทางกรมการค้าภายในที่ได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยหอการค้าแห่งประเทศไทย คาดว่าจะช่วยให้การค้าผลไม้ระหว่างไทยกับลาวเติบโตขึ้น พัฒนาเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปด้วยกัน

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหาการค้าไทย เปิดเผยว่า การเซ็น MOU ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างผู้นำเข้าผลไม้ในสปป.ลาว และชิปปิ้ง Shipping รับนำเข้าส่งออกผลไม้ในตลาดบ้านนาแฮ กับเกษตรกรและสหกรณ์ผลไม้จากากประเทศไทยกว่า 20 ราย

นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องการค้าขายผลไม้ เป็นครั้งแรงแรกภายใต้ CLMVT ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนเป็นอย่างดี เพื่อหาช่องทางระบายสินค้าผลไม้ของไทยไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่ได้รับความนิยเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

ส่วนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดบ้านนาแฮได้นำเข้าผลไม้จากประเทศไทยกว่า 80 % นำเข้าผลไม้จากเวียดนาม 10% จากประเทศจีน 5% และอีก 5% เป็นผลไม้ของ สปป.ลาว ตามฤดูกาล นับว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้ปริมาณการซื้อขายผลไม้ในตลาดบ้านนาแฮ นครหลวงเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาวกับประเทศไทย ที่มีอยู่ประมาณ 50 ตัน/วัน สามารถเพิ่มขึ้นในระยะสั้นได้ประมาณ 10-20% ไม่ว่าจะเป็น มะพร้าว ลำไย ขนุน และผลไม้อีกหลายชนิด และหลังจากรถไฟความเร็วสูงจากจีนเข้ามาในอีก 2 ปี ถัดไปคาดว่าปริมาณการซื้อขายผลไม้จาก 50 ตัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ตัน/วัน จากมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1500 ล้านบาท/ปี จะเป็น 3,000 ล้านบาท ในอีก 2-5 ปี

ด้านนายสมหมาย สมแสวง เจ้าของตลาดบ้านนาแฮ เปิดเผยว่า ตลาดบ้านนาแฮเป็นตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ผลไม้ในตลาดทั้งหมดมาจาก 4 ประเทศ คือ 1 มาจากภายในประเทศ (สปป.ลาว) เป็นผลไม้ตามฤดูกาล 2 เป็นผลไม้นำเข้ามาจากประเทศไทย 3 มาจากเวียดนาม 4 มาจากจีน แต่ที่เยอะที่สุดมาจากประเทศไทยกว่า 80% โดยจัดสรรค์การขายผลไม้ที่นำเข้ามาขายเป็นโซนแต่ละประเทศ ราคานำเข้าไม่ต่างกันมากนัก แต่จะมากน้อยตามแต่ราคารับมาขาย ค่าแผงคิดห้องละประมาณ 80 บาทไทย/วัน พ่อค้าแม่ค้าในตลาดปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 60 ราย ส่วนมากพ่อค้าแม่ค้าที่ไปรับผลไม้มาขายจากฝั่งไทยจะมาจากตลาดเมืองทองจังหวัดอุดรธานี ทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์ โดยจะใช้รถขนข้ามสะพานชายแดนจังหวัดหนองคายเข้ามาถึงตลาดเลย

ปัจจุบันพื้นที่ตลาดนาแฮพ่อค้าแม่ค้าจับจองขายผลไม้เต็มจำนวนแล้ว แต่ก็มีที่ดินสามารถขยายได้อีกประมาณ 3 ไร่ โดยมีการเก็บค่าเช่าแผงวันละ 21,000 กีบ หรือประมาณ 80 บาท/วัน หากพ่อค้าแม่ค้าคนไทยอยากจะมาเปิดขายผลไม้ที่ตลาดผมสามารถประสานงานและจัดการให้ได้ ซึ่งตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่กระจายสินค้าไม่ยังหัวเมืองต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงพระบาง เมืองไชยบุรี เมืองเชียงขวาง เมืองซำเหนือ

“เป็นวันดีที่ทางสภาการค้าแห่งไทยและผู้ประกอบการได้มาพบปะสื่อสารกัน ข้าพเจ้าในนามเจ้าของตลาดขายหมากไม้สดแสดงความนับถือฮักแพง การพบปะมื่อนี่ข้าพเจ้าเองดีอกดีใจเพราะว่าสิได้ขยายตลาดของข้าพเจ้า หลักคนลาวเฮาอยากได้หมาไม้อันดีดีไม่มีสารพิษคุณภาพเกรดเอ มือนี่มีสัญญา MOU กันเป็นอันที่ดีที่สุด เพราะระหว่างลาวไทยสิบ่ได้ตั๋วกัน ถ้าพ่อค้าแม่ค้ามาหลายข้าพเจ้าสิได้ขยายตลาด ถ้ามีผู้ประกอบการไทยมาลงทุนนำข้าพเจ้าก็อยากให้ตลาดแห่งนี้เปิด 24 ชั่วโมง ตอนกลางคือข้าพเจ้าจะบ่เก็บค่าบริการ”นายสมหมายกล่าว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ